WICE เจรจาพันธมิตร 2-3 รายหวังจับมือบุกขยายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 21, 2016 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรากับพันธมิตร 2-3 ในต่างประเทศ เพื่อขยายการลงทุนด้านธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศเพิ่มเติม โดยอาจเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (Joint venture) เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ 10% โดยจะเน้นลูกค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป ยางรถยนต์ แผงโซล่าเซลล์ อะไหล่รถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในช่วง 3 ปี (59-61) เติบโตอย่างน้อย 20% ต่อปี โดยจะมาจากธุรกิจเดิม (Organic Growth) และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน (Inorganic Growth) เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ครอบคลุม International Logistics Service Provider and Supply Chain Solutions เน้นการให้บริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในเกณฑ์ดี เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น ให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ในอุตสาหกรรม และการให้บริการอย่างมีคุณภาพ เพื่อรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันและขยายฐานลูกค้าใหม่

บริษัทคาดว่าในปีนี้จะทำรายได้ 900 ล้านบาท หรือเติบโตราว 30% จากปีก่อน โดยจะยังคงรักษาฐานลูกค้าเก่า และต่อยอดด้านการบริการใหม่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มที่มีศักยภาพเพื่อเน้นการบริการที่ดี และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 20-25% ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้ตั้งไว้ที่ 9-10% ซึ่งจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานใหม่ด้านบริหารคลังสินค้าเต็มปีเป็นปีแรก และการขยายลานจอด เพิ่มหัวลาก-หางพ่วง รองรับปริมาณงานในกรุงเทพและปริมณฑล ที่เป็นตลาด Consumer ขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะเริ่มลงทุนก่อสร้างคลังสินค้า ขนาดประมาณ 9,000-10,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุน 150 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการขยายธุรกิจต่อเนื่องจากปี 58 ซึ่งตั้งงบลงทุนรวมทั้งโครงการไว้ที่ 300 ล้านบาท แบ่งใช้เป็นการซื้อรถหัวลาก-หางพ่วง 80 ล้านบาท ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 17.56 ล้านบาท, ใช้ขยายลานจอดรถบรรทุกหัวลาก-หางพ่วง และลานวางตู้คอนเทนเนอร์ 10 ล้านบาท ปัจจุบันใช้แล้ว 3.62 ล้านบาท และใช้ลงทุนปรับปรุงระบบ IT ราว 10 ล้านบาท ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 2.20 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ