นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายตลาดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังสหรัฐโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่เพื่อผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับค่ายรถยนต์ เช่น โตโยต้า เป็นต้น โดยพันธมิตรจะเข้ามาเยี่ยมชมโรงงานในเดือน เม.ย.นี้เพื่อดูความพร้อมในการผลิต คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่มีโอกาสเติบโตสูงมาก
ปัจจุบัน บริษัทฯมีการส่งออกสินค้าไปยัง 132 ประเทศทั่วโลก และมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 86% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 7-10 เม.ย.59 จะเข้าร่วมออกบูธในงาน Thailand Autopart & Accessory 2016 (TAPA 2016) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากในและต่างประเทศทั้งสิ้น 1,037 คูหา เทียบกับปี 57 ที่มี 700 คูหา คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 32.49 % และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานเพิ่มขึ้นจาก 5,997 คน เป็น 11,000 คน ในงานนี้
ขณะเดียวกันในเดือน พ.ค. บริษัทฯเตรียมไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Dubai Automechanika 8-10 พ.ค.
“บริษัทฯยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้า ลดผลกระทบปัญหากำลังซื้อของคู่ค้าที่ลดลง จากวิกฤติค่าเงิน และปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้"นายสมพล กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศอินเดีย ภายใต้ชื่อ ALP FPI PARTS PRIVATE LIMITED คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงงานภายในเดือนพ.ค.นี้ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/59 โดยบริษัทฯได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน และก่อสร้างโรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์ที่คาดว่าจะได้กว่า 300 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้รายได้ในปี 2560
การร่วมลงทุนของบริษัทฯ กับพันธมิตรในประเทศอินเดียในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ขายส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ในประเทศอินเดีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเป็นผู้นำในการผลิต ขายส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ไปในประเทศอินเดีย สอดคล้องแผนการดำเนินธุรกิจใน 5 ปี ข้างหน้า เดินหน้าขยายสาขาใน 5 ประเทศทั่วโลก
นายสมพล กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนภาครัฐ และภาคเอกชน คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในปีนี้จะอยู่ที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก 1.22-1.25 ล้านคัน และผลิตเพื่อขายในประเทศ 7.5-7.8 แสนคัน ส่งผลดีกับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตได้ 10% จากปีก่อนมีรายได้รวม 1,857 ล้านบาท
“แนวโน้มยอดขายในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 300 ล้านบาท ยังไม่นับรวมคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการร่วมทุนกับพันธมิตรในอินเดียที่คาดว่าจะได้ออเดอร์กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ฯ ในปีนี้ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปี 60"นายสมพลกล่าว