ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,398.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 21,508.22 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,400.31 จุด และทำระดับต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,393.16 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบมากทั้งในแดนบวก-ลบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สก็แกว่งแคบ คาดว่าคงจะกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา
สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เบลเยียมจะส่งผลกระทบในยุโรปมากกว่า ส่วนทางเอเชีย และไทยไม่ถูกผลกระทบมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบเอเชีย และจีนมากกว่า ขณะที่นักท่องเที่ยวจากเบลเยียมมีเพียง 1% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังพอจะมีปัจจัยที่เป็นบวกบ้าง อย่างโครงการบ้านประชารัฐ ก็จะเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินค้าบ้านราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นบวกต่อ LPN และ PS เพราะมีสินค้าแบบนี้อยู่มาก ส่วนกลุ่มแบงก์ก็มองว่าสินเชื่อกลุ่ม Corporate น่าจะดีขึ้นได้ในปีนี้ แต่ก็ให้เลือกลงทุนเป็นรายตัว อย่าง BBL ที่ร่วมปล่อยกู้ใหักับ TRUE และ BJC ส่วนราคาน้ำมันยังต้อง Wait & See โดยยังต้องติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)ในช่วงดึกวันนี้ว่าสต็อกน้ำมันจะเพิ่มมากหรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ เพื่อรอข่าวใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ซึ่งเป็นแนวฟิวเตอร์ด้วย ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด ในทางกลยุทธ์แนะให้เลือกเล่นเป็นรายตัวไป
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,991.17 ล้านบาท ปิดที่ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,978.50 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,880.52 ล้านบาท ปิดที่ 3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,501.19 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,274.48 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 0.75 บาท