นายโรเบิร์ต ก็อดวิน รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บมจ.บิ๊กซี่ ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนในปีนี้กว่า 1.5-1.6 หมื่นล้านบาทเพื่อทำการตลาดและขยายสาขา
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้งบด้านการตลาดมากกว่า 9,000 ล้านบาท เปิดตัวกลยุทธ์ราคา"ถูกสุดสุดไปเลย"ตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป ซึ่งจะถ่ายทอดผ่าน 5 พันธะสัญญาระยะยาวเพื่อตอบโจทย์ทุกเรื่องราคา และการลดค่าครองชีพผู้บริโภค ได้แก่ การรับประกันราคาสินค้าโปรโมชั่นถูกสุดสุดไปเลย,รับประกันสินค้าโปรโมชั่นไม่ขาดสต็อก, สินค้าราคาถูกลงกว่าปีที่แล้วกว่า 5,000 รายการ, รับประกันราคาถูกต้อง เห็นเท่าไหนจ่ายเท่านั้น, แจกฟรี คูปองลดทันที แจกทุกวัน เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวได้
ขณะที่บริษัทมีแผนขยายสาขาบิ๊กซีทุกประเภททั่วประเทศในปีนี้ภายใต้งบลงทุนราว 6,000-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 สาขา, บิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา และมินิบิ๊กซี 75 สาขา (ในจำนวนนี้เป็นแฟรนไชน์ 50 สาขา) รวม 84 สาขา จากปัจจุบัน BIGC มีไฮเปอร์มาร์เก็ต 125 สาขา บิ๊กซี มาร์เก็ต 55 สาขา มินิบิ๊กซี 393 สาขา ร้านขายยาเพรียว 147 สาขา รวมถึงร้านค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ บิ๊กซีช้อปปิ้งออนไลน์ และ Cdiscount
นายก็อดวิน กล่าวว่า ทิศทางการตลาดของ BIGC ยังคงมุ่งเน้นที่การสร้างความเชื่อมั่น ด้านราคาและการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการทำตลาดในช่วงเทศกาลและการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย
"ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี บิ๊กซีได้ดำเนินกลยุทธ์ ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค ดังนั้นการลงทุนด้านราคานี้สะท้อนถึงความตั้งใจหลักและจริงใจต่อลูกค้า เพื่อตอกย้ำสิ่งที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศให้ความสำคัญสูงสุด และยืนยันความเป็นผู้นำด้านสินค้าราคาถูกอย่างแท้จริง"นายก็อดวิน กล่าว