หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างดีดตัวขึ้นอย่างคึกคักช่วงเช้าวันนี้ สวนทิศทางตลาดหุ้นไทยที่อ่อนตัวลง นำโดยหุ้น ITD พุ่งขึ้นกว่า 2% ตอบรับข่าวความคืบหน้าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ภาครัฐฯที่คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 10.35 น. หุ้น ITD อยู่ที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+2.14%) มูลค่าซื้อขาย 219.18 ล้านบาท
หุ้น CK อยู่ที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท (+1.41%) มูลค่าซื้อขาย 97.83 ล้านบาท
หุ้น STEC อยู่ที่ 21.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+0.94%) มูลค่าซื้อขาย 25.53 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากการติดตามข่าวพบว่าในสัปดาห์หน้ามีการคาดการณ์กันว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการนำโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายโครงการผ่านการอนุมัติจากครม. เช่น รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ เช่น เหลือง ชมพู และส้ม รวมทั้งรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง เป็นต้น นอกจากนี้โครงการที่เป็น PPP Fast Track คือโครงการที่รัฐให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ก็ยังน่าติดตามในความคืบหน้า ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สีเหลือง สีน้ำเงิน มอเตอร์เวย์บางประอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี
ส่วนงานขนาดใหญ่อีก 1 งานที่มีความคืบหน้าและเป็นที่จับตามมองในขณะนี้คือ สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 มูลค่างานถึง 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางเจ้าของงานคือบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) คาดว่าตั้งแต่ก.ค.59 จะเริ่มก่อสร้างในบางสัญญาได้
โดยหากข่าวดังกล่าวเป็นจริง จะทำให้หุ้นหมวดผู้รับเหมาก่อสร้างได้รับความนิยมในการเข้าซื้อ เพื่อลงทุนและเก็งกำไร เพราะคาดว่าปัจจัยที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปีนี้ได้สำเร็จ ก็คือการดำเนินโครงการเมกะโปรเจคให้มีความคืบหน้าได้สำเร็จในงวดครึ่งหลังปีนี้ เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องจักรที่จะช่วยเศรษฐกิจได้นอกจากภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคการส่งออก และการลงทุน-บริโภค ยังไม่กระเตื้องและกำลังมีปัญหาภัยแล้ง
สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในกลุ่มโยธาที่ดีบีเอสฯ แนะนำ ซื้อ ขณะนี้ คือ CK, STEC และ SEAFCO
ขณะที่บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่าปัจจัยพื้นฐานของ ITD ได้แรงหนุนจากแนวโน้มความคืบหน้าโครงการภาครัฐที่จะเข้าครม.ในสัปดาห์หน้า และคาดจะประมูลในไตรมาส 2 ทั้งโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และสุวรรณภูมิเฟส 2