นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร (SAMCO) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปีก่อนที่ทำได้ 121.66 ล้านบาท หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) เป็นไปตามเป้าหมายที่ภาครัฐวางไว้ 3.7% ขณะที่ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 30% จาก 1.5 พันล้านบาทในปีก่อนที่
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท คาดจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 รายได้และกำไรน่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่จะหมดในเดือนเม.ย.นี้ ทำให้มีการเร่งโอนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไม่เป็นไปตามคาด บริษัทก็อาจต้องปรับประมาณการผลการดำเนินงานลง โดยยังต้องรอดูความชัดเจนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และอื่นๆ ที่จะมีออกมาในปีนี้
บริษัทยังมีแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้อีก 3 โครงการ แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยวรังสิต คลอง 7 มูลค่าโครงการ 1.9 พันล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1.3 พัน ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 4.4 พันล้านบาท อีกทั้งยังมีโครงการที่เปิดขายอยู่ในขณะนี้อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 1.58 พันล้านบาท
สำหรับงบลงทุนในปีนี้จะใช้ในส่วนของการซื้อดินเพื่อเตรียมรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต อีกจำนวน 3 แปลง ใช้เงินลงทุนราว 900 ล้านบาท เน้นในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมองว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยบ้านเดี่ยวก็ยังมีสัดส่วนที่มากอยู่ หรือกว่า 60% ส่วนที่เหลือเป็นคอนโดมิเนียม ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะพัฒนาโครงการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้มีความทันสมัย และหันมาใช้วัสดุที่ช่วยให้การก่อสร้างเสร็จรวดเร็ว
นายกิตติพล กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะนำโครงการคอนโดมิเนียม ราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต ที่เหลืออยู่ในมือกว่า 30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด เข้าโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดของโครงการอยู่
"แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ มองว่ายังมีซัพพลายค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็ก ต้องหา Niche Market วิเคราะห์ตลาดให้ดี และพัฒนาโปรดักส์ที่แตกต่างจากรายอื่นๆ ขณะที่การเติบโตของตลาดก็เชื่อว่ายังมีการเติบโตที่อยู่ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตาม GDP ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ 3.7%"นายกิตติพล กล่าว