บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการดูแลลูกค้า ต่อยอดแนวคิด “AIS Live 360 องศา" ด้วยแคมเปญ “ที่สุดจากใจ ที่ 1 การให้บริการ" เพื่อส่งมอบการบริการด้วยใจ พร้อมคัดสรรสิทธิพิเศษที่ตรงใจให้แก่ลูกค้าในยุค 4G ด้วยการนำเทคโนโลยี ที่ออกแบบมาด้วยความเข้าใจและใส่ใจในทุกรายละเอียด ยกระดับการดูแลลูกค้าให้เป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งเร็วที่สุด สะดวกที่สุด ทันสมัยที่สุด รวมถึงหลากหลายที่สุด ด้วยสิทธิพิเศษที่เติมเต็มครบทั้ง 360 องศาการใช้ชีวิต
นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของเอไอเอส ที่ตั้งใจจะส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษเพื่อตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัลให้แก่ลูกค้าในยุค 4G ผ่านกลยุทธ์ 4 Best ซึ่งประกอบด้วย Best Network, Best Applications, Best Services และ Best People เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้านให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะ Best Services ที่ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสครองความเป็นผู้นำด้านการดูแลลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปีนี้ จากการที่เรามองเห็นความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ซึ่งแตกต่างกันและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ดังนั้นเพื่อที่จะเติมเต็มทุกองศาการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุค 4G เอไอเอส จึงยกระดับการดูแลลูกค้าด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาเป็นเครื่องมือในการบริการ ซึ่งมาจากความเข้าใจและใส่ใจในรายละเอียดของลูกค้า เป็นการต่อยอดแนวคิด AIS Live 360 องศา ด้วยแคมเปญ “ที่สุดจากใจ ที่ 1 การให้บริการ" เพื่อส่งมอบบริการด้วยใจ และคัดสรรสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยกลยุทธ์ “ที่สุด" ใน 4 เรื่อง ได้แก่
1) เร็วที่สุด โดยในปีที่ผ่านมา เอไอเอสได้รับรางวัล The Best Social Media Program of The Year ในฐานะผู้ให้บริการด้าน Social Media ที่ดีที่สุด และให้ข้อมูลลูกค้าเร็วที่สุดในประเทศไทย จากการให้บริการผ่าน Facebook, Live Chat, VDO Call, Email และ Website และปีนี้ เอไอเอสได้เพิ่มช่องทางในการให้บริการบน Social Media มากขึ้น โดยเพิ่มการให้บริการบน Line@ AIS Call Center และบริการ Ask Aunjai ซึ่งเป็น Virtual Agent ที่คอยตอบคำถามให้ลูกค้าได้ตลอดเวลาผ่านทางเว็บไซต์ของเอไอเอส
นอกจากการให้บริการบนโลก Social Media แล้ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่เร็วที่สุด ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อเข้ามายังเอไอเอส ผ่านช่องทางใดก็ตาม ในปีนี้ เอไอเอสจะนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ Omni-Channel ที่ผสานและเชื่อมโยงข้อมูลการติดต่อของลูกค้าในแต่ละช่องทางได้แบบไร้รอยต่อมาให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุด
2) สะดวกที่สุด ได้ทุกบริการยอดฮิต กับ Self-Service โดยการเพิ่มบริการต่างๆ ดังนี้ “On Top Package" ฟังก์ชันใหม่ล่าสุดใน AIS Application ให้ลูกค้าสามารถออกแบบ Package Data ของตนเองได้ง่ายๆ, *1175 (ฟรี) ศูนย์รวมบริการยอดฮิตที่ลูกค้าสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง, QR Code ที่ให้ลูกค้าชำระเงินด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา, ตู้บริการอัจฉริยะ (Service Vending Kiosk) ที่เอไอเอส ช็อป โดยเพิ่มจาก 60 ตู้เป็น 80 ตู้ทั่วประเทศ และ ตู้ชำระเงินอัตโนมัติ (Payment Kiosk) ขยายไปยังสถานที่ที่ลูกค้าจะได้รับความสะดวกที่สุด อาทิเช่น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สายใหม่ๆ หรือ Community Mall ต่างๆ เป็นต้น
3) ทันสมัยที่สุด กับการนำเทคโนโลยีมาออกแบบงานบริการที่ตรงใจลูกค้า ด้วยการยกระดับเอไอเอส ช็อปทุกสาขาทั่วประเทศ ให้เป็น Digital Shop โดยนำ Tablet กว่า 700 เครื่อง มาให้บริการลูกค้าเอไอเอส ช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่เรียกว่า Service on Mobility เพื่อให้พนักงานสามารถให้บริการแก่ลูกค้า ได้ทุกจุดในช็อป พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและเพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน สู่การเป็น Digital Guru อย่างเต็มรูปแบบ โดยในปีนี้จะเพิ่มจำนวน Digital Guru ขึ้น อีกกว่า 30% เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล
4) หลากหลายที่สุด กับสิทธิประโยชน์ครบทั้ง 360 องศา เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยในปีนี้ AIS Privilege เพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์และร้านค้าที่ร่วมรายการ จาก 12,000 ร้าน เป็น 15,000 ร้านค้าทั่วประเทศ, AIS Rewards จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 กับโชคทองถล่มทับปี 8 โดยเพิ่มความสนุกเร้าใจด้วยกติกาที่ง่ายกว่าเดิม, AIS Points ที่เพิ่มของรางวัลมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมเพิ่มช่องทางในการแลกพอยท์ ให้ลูกค้าสะดวกขึ้นผ่านทาง AIS Application และ www.ais.co.th/points
และ AIS Experience ให้ลูกค้าเปิดประสบการณ์ด้านท่องเที่ยวกับ AIS Trip และ Serenade Trip และพิเศษในปีนี้ กับประสบการณ์กินฟรี ที่ให้ลูกค้ากินฟรี 77 จังหวัดทั่วไทย ภายใต้แคมเปญ “มื้อนี้ฟิน วันนี้ฟรี"