นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/59 คาดจะออกมาไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องด้วยปีนี้ภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ของไทยยังคงซึมตัว และปริมาณการซื้อขายก็อยู่ในระดับที่ทรงตัวเช่นกัน แต่แนวโน้มในเดือน มี.ค.59 ก็เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้นมาบ้าง จึงเชื่อว่าทั้งปีนี้ปริมาณการซื้อขายน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 4,175.63 ล้านบาท จากสภาวะตลาดที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ตอบรับการลงทุนของภาครัฐในทุกๆด้าน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะช่วยสนับสนุนภาพรวมการลงทุนให้ปรับตัวดีขึ้น รวมถึง MBKET คาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่ดีขึ้นด้วย
นายมนตรี กล่าวว่า แนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อเก็บในช่วงที่ตลาดผันผวน เพราะมองโอกาสที่จะเห็นเงินทุนไหลจากต่างประเทศกลับเข้ามาในประเทศ หลังจากต่างชาติถอนเงินลงทุนจากตลาดหุ้นออกเป็นระยะเวลา 3 ปี ขณะนี้ก็น่าจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาอีกครั้ง เนื่องจากการดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศต่างๆ ที่ยังไม่มีความชัดเจน เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากที่เคยคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ 4 ครั้ง แต่ขณะนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นไปตามคาดการณ์
ดังนั้น จึงมองแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปลายปีนี้อยู่ในช่วง 1,600-1,650 จุด สำหรับกลุ่มที่น่าลงทุนในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มแบงก์ ที่ยังมีค่า P/E ไม่แพง และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เชื่อว่าน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้
"ทิศทางภาวะตลาดในช่วงไตรมาส 2/59 เรายังมองว่าน่าจะสอดคล้องกับภาพทั้งปีที่เรามอง คือ เป็นโอกาสที่ดี แม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังมีความผันผวน แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังนี้ น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากการลงทุนภาครัฐต่างๆ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะมีส่วนให้ตลาดดีขึ้น"นายมนตรี กล่าว