สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษบุคคล 3 ราย ได้แก่ (1) บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) หรือเดิมชื่อ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (SLC) (2) บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) หรือเดิมชื่อ บมจ.วธน แคปปิตัล (WAT) และ (3) นายศิร์วสิษฎ์ สายน้ำผึ้ง กรณีมีพฤติกรรมชักชวนกันเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) เพื่อครอบงำกิจการโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)
ก.ล.ต.ได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้ชี้เบาะแสและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า NEWS, POLAR และนายศิร์วสิษฎ์ มีพฤติกรรมและเจตนาร่วมกันให้ได้มาซึ่งหลักทรัพย์และครอบงำกิจการ NMG ในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน โดยไม่รายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ให้ครบถ้วนถูกต้อง และไม่ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ NMG โดยเมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวร่วมกันได้มาซึ่งหุ้น NMG ข้ามจุดทุก 5% และคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 25% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ NMG อันเป็นการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ซึ่งต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์และรายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ให้ครบถ้วนถูกต้อง
การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 246 และ 247 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกลุ่มบุคคลทั้ง 3 รายดังกล่าว ไม่ประสงค์เข้ารับการเปรียบเทียบความผิด ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษต่อ ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ