นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ในระยะยาวนักลงทุนรายย่อยในประเทศจะมีการพัฒนาและเข้าใจตลาดทุนมากขึ้น เพราะมีเครื่องมือที่จะช่วยกลั่นกรองข้อมูลการลงทุนมากขึ้น ซึ่งภายในงาน“นวัตกรรมการลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์"ที่จัดขึ้นโดยสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในวันที่ 28 มีนาคม 2559 พบว่ามีบริษัทหลักทรัพย์เปิดตัวแอพพลิเคชั่นการลงทุนมากกว่า 10 แห่ง
ทั้งนี้ ฟินเทค หรือ ไฟแนนเชียล เทคโนโลยี (Financial Technology) จะเข้ามามีบทบาทต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้นและจะทาให้ภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมหันไปเน้นการแข่งขันทางด้านการบริการมากกว่าการแข่งขันด้านราคา โดยหัวใจสาคัญของการตัดสินใจลงทุนจะอยู่ที่ผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าค่าคอมมิชชั่น
ขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์มีการตื่นตัวที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางด้านการลงทุนมากขึ้น สะท้อนได้จากการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 10 แห่ง และคาดว่าจะมีการทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะหากบริษัทหลักทรัพย์มุ่งหวังเฉพาะรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายผ่านเจ้าหน้าการตลาด และอินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ได้มีการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า สุดท้ายก็จะอยู่ไม่ได้
“การพัฒนาฟินเทคของแต่ละโบรกเกอร์ ในเบื้องต้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวมของมาร์เก็ตติ้งให้ลดลง เพราะปัจจุบันยังมีกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายผ่านมาร์เก็ตติ้งและต้องการคาแนะนาการลงทุนโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญอยู่ แต่โบรกเกอร์ก็จะต้องพัฒนาเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ เข้ามาเสริมรายได้ เพราะสุดท้ายแอพพลิเคชั่นการลงทุนจะมาเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์การซื้อขาย" นางภัทธีรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฟินเทค ไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการตลาดทุน เพราะที่ผ่านมาก็มีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นการลงทุนให้กับลูกค้าของตัวเอง แต่หลังจากที่ระดับนโยบายของประเทศได้ให้ความสาคัญกับไฟแนนเชียล เทคโนโลยี ก็จะเห็นการตื่นตัวในการพัฒนามากขึ้น