นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางของการซึมตัวลง โดยตลาดยังมีลุ้นผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ แต่สภาพตลาดที่เงียบเหงามองว่าเป็นผลจากตลาดต่างประเทศหยุดต่อเนื่อง ทำให้วอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยน้อยลงไปด้วย
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.3-0.4% โดยต่างรอดูถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไร
พร้อมให้แนวรับ 1,375-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,395-1,400 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,535.39 จุด เพิ่มขึ้น 19.66 จุด (+0.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,766.79 จุด ลดลง 6.71 จุด (-0.14%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,037.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.11 จุด (+0.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 149.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 40.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.39 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.74 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 มี.ค.59) 1,389.01 จุด ลดลง 5.77 จุด (-0.41%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 328.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 มี.ค.59) ปิดที่ 39.39 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 มี.ค.59) ที่ 7.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.32/35 ทิศทางทรงตัว ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.กำลังจะผ่อนผันให้เงินทุนไหลออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเปิดให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนโดยไม่ผ่านตัวกลางในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (FX-linked product)
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ครม.พิจารณา ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะช่วยประชาชนลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และเป็นมาตรการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศสำหรับกลุ่มที่มีกำลังใช้จ่ายแต่ยังชะลออยู่
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยเรียกร้องให้เร่งประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ใหม่โดยเร็ว ด้วยความโปร่งใสและยึดหลักความเป็นธรรม นั่นคือผู้ที่ชนะการประมูลรายใหม่ควรเป็นราคาต้นทุนไม่น้อยกว่าต้นทุนที่ทรูฯ ต้องรับภาระอยู่ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการแข่งขันทางการค้า
- รัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลุ้นปีนี้คมนาคมเซ็นสัญญา 20 โครงการ หวังมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจปีนี้ 1.2 แสนล้าน หนุนจีดีพีโตเพิ่ม 0.5% ด้านรฟม.ดันรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 สายเข้าครม. มูลค่าลงทุน 2 แสนล้านบาท หวังเปิดประมูลในปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- การประชุมครม.วันนี้ยังพิจารณาเรื่องมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว-กินอาหารเพื่อให้ทันเทศกาลสงกรานต์ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นผลดีกับกลุ่มค้าปลีก-โรงแรม เช่น HMPRO, ROBINS, MINT, CENTEL, ERW (ฟินันเซีย ไซรัส)
- MTLS (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 25.50 บาท ผู้บริหารยืนยันว่าเป้าการเติบโตปีละ 50% ยังทำได้ในปีนี้และปีหน้า ต่อเนื่องจากปี 58 ยังเน้นทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อหลัก ได้แก่ สินเชื่อจักรยานยนต์ สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อที่ดิน และสินเชื่อนาโน ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงทำให้ spread มีแนวโน้มใกล้เคียงหรือต่ำลงเล็กน้อยจากระดับ 18.7% ในปี 58 แนวโน้มกำไรรายไตรมาสในปี 59 จะต่ำสุดใน Q1 ไต่ระดับเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสและจะสูงสุดใน Q4 เป็นประจำทุกปี ด้านคุณภาพสินเชื่ออยู่ในระดับดี มี NPL ต่อยอดสินเชื่อรวมต่ำเพียง 1% ส่วนฐานะการเงินแข็งแกร่ง
- GPSC (ไอร่า) เป้า 30.50 บาท GPSC ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเป็น 2,800 MW ในปี 62 จากที่ 1,917 MW โดยมีโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟแล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้าง602 MW และระหว่างปี 59-62 จะมีโรงไฟฟ้าทยอยเปิดอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสโตจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์อยู่ระหว่างเจรจาสัญญา MOA มองว่า GPSC ได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นสำหรับโครงการในเมียนมาร์ เหตุมีกลุ่ม PTT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และลงทุนในเมียนมาร์มาเป็นเวลานาน
- AP (เคจีไอ) ยังคงมุมมองที่ดีเชิงบวก โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 7 บาท จากเดิม 7.60 บาท คำนวณจาก PER เฉลี่ยที่ 8 เท่า คง Rating เป็น "Outperform" จากการที่ AP จะเริ่มรับรู้กำไรในส่วนของโครงการ JV ตั้งแต่ 2H16 เป็นต้นไป อีกทั้งการผสมผสาน Housing portfolio ของ AP น่าจะตอบสนองตลาดได้ดี