นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 91 (KTFF91) ในวันที่ 29 มี.ค.-4 เม.ย.59 อายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง 100% ประกอบด้วย ตั๋วเงินคลังประเทศญี่ปุ่น เงินฝากประจำ Ahli Bank QSC,Commercial Bank of Qatar Q.S.C และ First Gulf Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี
อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบๆ ตามแรงขายทำกำไรหลังคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม 1.50% ต่อปี ประกอบกับตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ ประมาณ 4,367 ล้านบาท
ส่วนอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายทำกำไรหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาให้ความเห็นว่าน่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ประกอบกับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นที่ทำให้มีการลดน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นแทน ทั้งนี้ ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายในบรัสเซลแต่อย่างใด โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps มาอยู่ที่ 0.89% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps. มาอยู่ที่ 1.39% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 bps. มาอยู่ที่ 1.91% ต่อปี
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มราคาน้ำมัน แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ ส่วนในประเทศเป็นเรื่องความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม โกลบอล แม็คโคร ออพเพอทูนิตี้ ฟันด์ (KT-GMO) เสนอขายครั้งแรก (IPO) จนถึงวันที่ 31 มี.ค.59 เงินลงทุนขั้นต่ำ 550,000 บาท เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหลัก JP Morgan Investment Funds-Global Macro Opportunities Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งบริหารและจัดการโดย JP Morgan Asset Management (Europe)
กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์คือ การบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเงินทุนในส่วนที่เกินจากดัชนีอ้างอิง โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารทั่วโลกทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน รวมถึงจะมีการใช้กลยุทธ์ลงทุนในอนุพันธ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอีกด้วย
ความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุน KT-GMO คือการวางเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุนรวมหลัก ที่จะเน้นบริหารในการสร้างผลตอบแทนให้เป็นบวกในทุกสภาวะตลาด รวมถึงการควบคุม ความผันผวนจากการบริหารกองทุนรวมหลัก ให้ไม่เกิน 6-10% และเน้นป้องกันความเสี่ยงจากตลาดขาลง ยังได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar 5 ดาว อีกด้วย จาก J.P.Morgan Asset Management ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.พ.59 กองทุนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซบเซา และการลงทุนมีความผันผวนสูง