สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.บีซีพีจี ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ฉบับแรกเมื่อวันที่ 29 มี.ค.59 เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท ซึ่งบริษัทมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมี บล.กสิกรไทย, บล.ฟินันซ่า และธนาคารทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ บมจ.บีซีพีจี ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ถือหุ้น 1,399,999,994 หุ้น คิดเป็น 99.9% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 70% โดยเมื่อไตรมาส 4/58 BCP ได้ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนด้วยการให้ บีพีซีจี เข้าซื้อสินทรัพย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 38 เมกะวัตต์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจาก BCP และเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อยของ BCP ที่ดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด
ดังนั้น บีพีซีจีจึงเป็นเจ้าของโครงการระยะที่ 1 และเข้าถือหุ้นร้อยละ 99.9 ในบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด (BSE) บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (บุรีรัมย์) จำกัด (BSE-BRM) บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (บุรีรัมย์1) จำกัด (BSE-BRM 1) บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี(ชัยภูมิ1) จำกัด (BSE-CPM 1) บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (นครราชสีมา) จำกัด (BSE-NMA) และ บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (ปราจีนบุรี) จำกัด (BSE-PRI)
ต่อมาในไตรมาส 1/59 กลุ่มบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 164 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 11 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 153 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,400 ล้านหุ้น หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วบริษัทจะมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10,000 ลานบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญไม่เกิน 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
สำหรับงบการเงินรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค.58 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 11,670.94 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,740.95 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,929.99 ล้านบาท โดยในปี 58 บริษัทมีรายได้รวม 3,038.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่มีรายได้ 2,720.27 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 2,083.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 576.45 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.0 ของกำไรสุทธิ หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามข้อบังคับของบริษัท และตามกฎหมายแล้ว