บลจ.กรุงศรี ออกกองตราสารหนี้ตปท. 3 เดือน ขายวันนี้-4 เม.ย.,คาดผลตอบแทน 1.95% ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 30, 2016 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ3M18 (KFFAI3M18) อายุประมาณ 3 เดือน เสนอขายตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 เม.ย. 59 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ซึ่งต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการผลตอบแทน 1.95% ต่อปี

กองทุน KFFAI3M18 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศหรือเงินฝาก ได้แก่ เงินฝากธนาคาร Commercial Bank of Qatar (ประเทศการ์ต้า) สัดส่วนการลงทุน 16% เงินฝากธนาคาร First Gulf Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 23% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Turkiye Vakiflar Bankasi (ประเทศตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23% และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Turkiye Isbank Bankasi (ประเทศตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.95% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.12% ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M18 เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน"นางสาวศิริพร กล่าว

นางสาวศิริพร กล่าวว่า สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น ตามข้อมูล PMI เบื้องต้นของยูโรโซนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับตัวขึ้น 0.02-0.04%

“สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยนั้น กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% โดยระบุว่าเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากแรงหนุนของการใช้จ่ายภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยว และภาคเอกชนที่มีการลงทุนมากขึ้น ด้านธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ลงสู่ 3.1% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.5% ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆระหว่าง 0.01-0.03%" นางสาวศิริพร กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ