นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นยูนิตรวมกว่า 1,000 ยูนิต เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่มีความต้องการที่อยู่อาศัยหลังแรก
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียม ของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ดังนี้ 1. โครงการคอนโดมิเนียม B Loft สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท 2.โครงการคอนโดมิเนียม Tropicana BTS Erawan ราคา 1.49 ล้านบาท 3. โครงการคอนโดมิเนียม The cabana Condo ราคา 1.29 ล้านบาท 4. โครงการคอนโดมิเนียม Pause condo สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท และ 5. โครงการคอนโดมิเนียม Kensington แหลงฉบัง-ศรีราชา ราคา 1.19 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวมีความโดดเด่นในเรื่องของการเดินทางที่ความสะดวกสบาย เพราะเป็นโครงการที่เกาะแนวรถไฟฟ้า และใกล้แหล่งชุมชน รวมทั้งเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีสไตล์อย่างลงตัว ซึ่งยังไม่รวมถึง Notting Hill แพรกษา ที่ราคาขาย 1.1 – 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาทที่จะเปิดขายในไตรมาส 2/59
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนั้น เป็นโครงการที่ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ซึ่งไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย (KTB) สนับสนุนสินเชื่อ “โครงการบ้านประชารัฐ" วงเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) สำหรับประชาชนทั่วไปวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท
"เชื่อว่ามาตรการรัฐหนุนภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาฯขยายตัวมากขึ้น ยิ่งเมื่อพิจารณาจากความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของชุมชนเมืองตามแนวรถไฟฟ้า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการแยกตัวออกมาจากครอบครัว เพื่อมาทำงาน หรือใดใดก็ตาม รวมทั้งความต้องการที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเมื่อพิจารณาจากค่าเช่า กับการซื้อคอนโดแล้วผ่อนชำระต่อเดือน ถือว่าไม่แตกต่างมากนัก ดังนั้นคอนโดฯของ “ออริจิ้น" จึงถือได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี"นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 คาดว่ามียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายแล้วกว่า 800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องจากการอัดแคมเปญต่างๆของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา สอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนนี้ด้วย ทำให้มั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปี 59 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเข้าเป้าหมายที่ 4,000 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,846 ล้านบาท