นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษนิติบุคคลและบุคคล 3 รายว่ามีพฤติกรรมชักชวนกันเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นของ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป (NMG) เพื่อครอบงำกิจการโดยไมปฏิบัตตามกฎหมาย โดยเห็นว่าบทลงโทษตามกฎหมายควรมีความรุนแรงมากขึ้น และมีกระบวนการเอาผิดที่กระชับและเฉียบขาด เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อกฎหายและไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำผิด
"พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ก.ล.ต.กล่าวโทษ สะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการของบริษัทที่ถูกกล่าวโทษต้องกำกับดูแลให้มั่นใจว่า การดำเนินการใดๆของบริษัท โดยเฉพาะที่จะส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียหลายกลุ่มนั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมายและโปร่งใส ซึ่งในระยะหลังที่มีการเผยแพร่ข่าวการกระทำความผิดของกรรมการและผู้บริหารจำนวนมากนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้สังคมเริ่มมองว่าการปฏิบัติตามกฎหมายของกรรมการและผู้บริหารบริษัทยังเป็นเรื่องที่วางใจไม่ได้ ดังนั้น บทลงโทษตามกฎหมายควรต้องรุนแรงมากขึ้น พร้อมมีกระบวนการเอาผิดที่กระชับและเฉียบขาด เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมายและไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำผิด"นายบัณฑิต กล่าว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษบมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS), บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) และ นายศิร์วสิษฎ์ สายน้ำผึ้ง กรณีมีพฤติกรรมชักชวนกันเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ NMG เพื่อครอบงำกิจการโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)