หุ้น AAV, BA,EPG และ TASCO ราคาขยับขึ้นสวนทางตลาดโดยรวม โดยเมื่อเวลา 10.11 น.หุ้น AAV อยู่ที่ 6.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+2.52%) มูลค่าซื้อขาย 191.60 ล้านบาท
หุ้น BA อยู่ที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.98%) มูลค่าซื้อขาย 32.34 ล้านบาท
หุ้น TASCO อยู่ที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+2%) มูลค่าซื้อขาย 48.99 ล้านบาท
หุ้น EPG อยู่ที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+0.75%) มูลค่าซื้อขาย 48.99 ล้านบาท
ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,400.08 จุด ลดลง 0.64 จุด (-0.05%)
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร" หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดลงของราคาน้ำมันอย่าง บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ.การบินกรุงเทพ (BA), บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) และบมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) จากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะมีการปรับฐานลงในระยะสั้นต่อหลังจากเมื่อคืนนี้ราคาปรับลดลงแรง 1.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือลดลง 4% มาปิดที่ 36.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
จากคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการจำกัดเพดานการผลิต หลังซาอุดิอาระเบียออกมายืนยันว่าซาอุฯ จะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นยอมปฎิบัติตาม โดยลิเบียประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย. ในขณะที่อิหร่านก็ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่แต่อิหร่านยืนยันมาตลอดว่าจะเข้าร่วมประชุมก็ต่อเมื่อสามารถผลิตน้ำมันได้ถึงระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน (ปัจจุบันผลิตได้เพียง 3 ล้านบาร์เรล/วัน) ทำให้มีความไม่แน่นอนว่าการประชุมในครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่เหมือนที่คราวก่อนวันที่ 20 มี.ค. ถูกยกเลิกไปเพราะอิหร่านไม่เข้าร่วมประชุม
โดยยังคงให้ EPG เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 16.75 บาท ในขณะที่ Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย AAV ที่ 6.16 บาท, BA 28.28 บาท และ TASCO 37.10 บาท