ดัชนี SET ภาคบ่ายร่วงต่อเป็นกว่า 20 จุด ขณะที่ยังมีแรงขายหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ทั้งธนาคาร พลังงาน สื่อสารเข้ามาถ่วงภาพรวม
เมื่อเวลา 14.58 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,380.09 จุด ลดลง 20.18 จุด (-1.44%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.13 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,379.30 จุด ลดลง 20.97 จุด (-1.50%)
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด ต่อเนื่องจากช่วงเช้า เป็นผลจาก 3 เรื่องใหญ่ อย่างแรกกลุ่มแบงก์ มีประเด็นลบจาก SCB, KBANK, TMB, KTB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ทำให้เกิดความกังวลว่าแบงก์อื่นจะปรับลดตาม ซึ่งการปรับลดในครั้งนี้เป็นการปรับลดแต่เฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ไปกระทบ NIM และคาดว่าจะกระทบผลประกอบการงวดไตรมาส 2/59 ด้วย โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินกระทบ EPS กลุ่มแบงก์ประมาณ 3-6% จากที่ประมาณการไว้เดิม ดังนั้นจึงได้หลีกเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ไปก่อน แต่เชื่อว่าแบงก์ขนาดกลางจะไม่รับผลกระทบมากนัก นอกจากนี้ ได้มีการทำ Preview กลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/59 ออกมาแล้วก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
เรื่องที่ 2 มาจากกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลง รับผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง จากความกังวลผู้ผลิตน้ำมันไม่สามารถตกลงกันได้ และเริ่มออกจากฤดูหนาวแล้วทำให้ความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง ส่วนเรื่องที่ 3 มาจากกลุ่มสื่อสาร ที่ได้รับแรงกดดันจากที่ ADVANC ได้เสนอที่จะซื้อคลื่น 900 MHz ซึ่งมีราคาที่สูง
อย่างไรก็ดี มองว่าแรงขายที่เกิดขึ้นได้ซึมซับปัจจัยลบไปมากแล้ว เพียงแต่ภาพรวมตลาดฯยังขาดปัจจัยหนุน และตลาดฯจะปิดทำการระยะยาวในอีกไม่กี่วันข้างหน้าด้วย ทำให้นักลงทุนอาจเลือกที่จะชะลอการลงทุนก่อน
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะปรับตัวลงมากกว่าตลาดอื่น
พร้อมให้แนวรับ 1,378 จุด ส่วนแนวต้าน 1,386 จุด