นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ว่า ล่าสุดได้ปรับลดงบลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ตามแผน 6 ปี (ปี 58-63) ลง 3-4 พันล้านบาท และจะโยกเงินลงทุนดังกล่าวมาใช้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าสีเขียวแทน
"การลงทุนในธุรกิจ E&P บริษัทยังคงเฝ้าติดตามอย่างระมัดระวังหลังสถานการณ์ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ และลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง"
ในส่วนของการผลิตปิโตรเลียมในแหล่ง Galoc ที่ฟิลิปปินส์ ในปีนี้คาดว่าจะผลิตลดลงเหลือ 2 ล้านบาร์เรล จาก 2.5 ล้านบาร์เรลในปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนของบางจากฯราว 1 ล้านบาร์เรล จาก 1.2 ล้านบาร์เรลในปีก่อน อย่างไรก็ตามการผลิตปิโตรเลียมในแหล่งดังกล่าวสำหรับปีที่ผ่านมาสามารถทำกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็นบวกได้ที่ระดับ 400-500 ล้านบาท โดยแหล่งดังกล่าวมีต้นทุนผลิตที่ราว 30-31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในช่วง 39-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็จะยังทำให้มี EBITDA เป็นบวกอยู่
"เรายังดูโอกาส เมื่อตลาดเปิดเสรีถ้าเราไปที่ต้นน้ำจะทำให้การหาวัตถุดิบมีความมั่นคงมากขึ้น เราก็เฝ้าดูอย่างระมัดระวังและพร้อมจะเข้าลงทุน...เราให้ความสำคัญกับแหล่งในเอเชียที่เราสามารถนำมาใช้ได้ เป็นน้ำมันเบา กำมะถันต่ำ และต้นทุนการผลิตต่ำ"นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอาเซียน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ลม พลังความร้อนใต้พิภพ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะสินทรัพย์ (due diligence) บางแห่งซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้