นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นจาก Sentiment ต่างประเทศที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันฟื้นตัว แต่อาจปรับขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้อยู่ในแดนบวก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยอาจต้องเผชิญแรงขายของหุ้นกลุ่มแบงก์ถ่วง หลังจากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะทำให้มีการปรับลดประมาณการกำไร และยังกังวลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะแย่กว่าที่คาดไว้หรือไม่ นอกจากนี้จากการ Preview ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 1/59 ก็ออกมาไม่ค่อยดี โดยเฉพาะจากที่คาดว่าตัวเลข NPL จะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ก็คงจะเป็นช่วงของการโฟกัสผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของทั่วโลก โดยมองไปที่ประมาณการของงวดไตรมาส 1/59 ในประเทศหลักๆ อีกทั้งให้ติดตาม outlook เศรษฐกิจของประเทศหลักๆ ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,385 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,716.05 จุด พุ่งขึ้น 112.73 จุด (+0.64%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,920.72 จุด เพิ่มขึ้น 76.79 จุด (+1.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.66 จุด เพิ่มขึ้น 21.49 จุด (+1.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 91.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.95 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 23.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.43 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 23.90 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 เม.ย.59) 1,373.59 จุด ลดลง 26.68 จุด (-1.91%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,777.75 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 เม.ย.59) ปิดที่ 37.75 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 เม.ย.59) ที่ 5.12 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.21/23 แข็งค่าจากดอลล์อ่อน หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- แหล่งข่าวจากผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การตรวจสอบเส้นทางฟอกเงินด้วยการหลบเลี่ยงภาษีออกจากไทยไปต่างประเทศทำได้ไม่ยาก หากเป็นการโอนเงินอย่างเปิดเผยผ่านธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินในประเทศไปซื้อกิจการหรือลงทุนในต่างประเทศ กรณีทำธุรกรรมเกิน 2 ล้านบาท ก็ต้องรายงานต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่หากนำเงินออกไปด้วยวิธีการอื่น เช่น ถือเงินสดออกไปก็ไม่มีทางติดตามได้
- กสทช.เข้าทำเนียบแจง 'วิษณุ' 8 เม.ย. ดันใช้ ม.44 รองรับข้อเสนอเอไอเอสจ่าย 7.6 หมื่นล้าน แลกใบอนุญาต 4จี คลื่น 900 บทวิเคราะห์ชี้ส่งผลดีต่อรัฐบาล-ผู้ใช้บริการ 'ทีดีอาร์ไอ' หนุนเป็นประโยชน์สาธารณะ 3 ด้าน แนะถามความเห็นค่ายมือถืออื่นด้วย
- กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ต่อปี สาเหตุหนึ่งจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ 0.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้ อีกทั้งมองต้นทุนระดมทุนของภาคธุรกิจยังอยู่ระดับต่ำเทียบค่าเฉลี่ยในอดีต สะท้อนให้เห็นว่านโยบายการเงินยังอยู่ระดับผ่อนปรน
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2559 ช่วง 6 เดือนแรก ตั้งแต่เดือน ต.ค.58-มี.ค.59 งบรายจ่ายรวม 2.72 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายได้ 1.35 ล้านล้านบาท หรือเพียง 49.8% การเบิกจ่ายดังกล่าวน้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมาที่เบิกจ่ายได้ 50.8%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะการขยายตัวของสินเชื่อและเงินฝากในระบบสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ล่าสุด ณ สิ้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าเงินฝากขยายตัวเร็วกว่าสินเชื่อ โดยเงินฝากขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน มียอดคงค้างอยู่ที่ 17.48 ล้านล้านบาท และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนสินเชื่อขยายตัว 4.8% มียอดคงค้างอยู่ที่ 16.12 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้าดูเฉพาะส่วนต่างของสินเชื่อกับเงินฝากจะเห็นว่ามีเงินสภาพคล่องส่วนเกินเหลือ 1.37 ล้านล้านบาท
- นายมาซายาสุ โฮซูมิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยนับว่าโชคดี เพราะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากภาคท่องเที่ยวไทยคิดเป็นกว่า 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และยังจะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตลาดนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น ถือเป็นตลาดสำคัญของเมืองไทย ที่จะเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัดได้จากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีในเมืองไทยรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 2.4 พันแห่ง ตามกระแสคนญี่ปุ่นนิยมเที่ยวไทย อีกทั้งยังเกิดการลงทุนด้านอุตสาหกรรมอื่นๆ ระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL (โกลเบล็ก) แนะ"ซื้อ"เป้า 194 บาท คาดกำไร 1Q59 ลดลง 25%YoY และ 9%QoQ แต่ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของธนาคารยังดีจากการเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดี กระแสข่าวการเพิ่มขึ้นของ NPL และปัญหาของลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ในธุรกิจดิจิตอลทีวีและโทรคมนาคมส่งผลเชิงลบด้านจิตวิทยากดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารประกาศจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลืออีก 4.50 บาท (รวมจ่ายทั้งปี 6.5 บาท) XD 21 เม.ย.วันจ่าย 11 พ.ค.
- PTTEP (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 94 บาท หลังราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรง 1.86 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ +5.2% ปิดที่ 37.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบออกมาลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 529.9 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่ตลาดคาด โดยเชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะอยู่ในขาขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้สมมติฐานที่กำไรเติบโตในอนาคต โครงสร้างต้นทุนลดลง ราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้นและปริมาณสำรองเพิ่มขึ้นจากโครงการ LNG
- STA (ยูโอบี เคย์เฮียน) เป้า 14 บาท ราคายางโลกเข้าสู่ช่วงร้อนแรงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน กำไรมี correlation เชื่อมโยงกับราคายางมากถึง 80% จึงได้ผลบวกอย่างสูง และตั้งแต่เดือน มี.ค.59 ประเทศไทยจะจับมืออินโดนีเซียลดการผลิตและส่งออกยางจนถึง ส.ค.59 ซึ่ง 3 ประเทศ(รวมมาเลเซีย)มียอดผลิตยางพารารวมเกือบ 70% ของผลผลิตยางพาราทั้งโลก ดังนั้น การจับมือกันควบคุมปริมาณการผลิตจะมีผลให้ราคายางพาราปรับขึ้นต่อตั้งแต่เดือน เม.ย.59 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 2 หลายพื้นที่ในประเทศไทยเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบ ทำให้ปริมาณ supply ยางพาราลดลงและหนุนราคายางพาราขึ้น