ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 1 พันล้านบาท ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 600-700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่าจะสามารถจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 60 นอกจากนี้จะยังจะได้รับงานติดตั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับคลื่นความถี่ 4G รวมไปถึงนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของภาครัฐจะช่วยให้ปีนี้บริษัทมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐ-เอกชน มูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท หวังได้งานไม่ต่ำกว่า 60% โดยภายใน 1-2 เดือนนี้เตรียมประกาศผลประมูลงานใหญ่มูลค่า 1.1 พันล้านบาท ดันสัดส่วนรายได้ non-project เป็น 50% จากปีก่อนที่ 20% ตามนโยบายเน้นงานที่สร้างรายได้ระยะยาวต่อเนื่อง ส่วนด้านเงินทุนนั้นปัจจุบันหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 1.26 เท่า สามารถกู้เงินได้เกิน 2 เท่า ขณะที่ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย (KBANK) พร้อมสนับสนุนวงเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท หากสามารถชนะประมูลงานขนาดใหญ่ รวมถึงมีแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินในประเทศจีนรองรับการลงทุนในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ จากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท วิชวัน อินโฟ จำกัด ผู้ให้บริการด้านบุคลากรเครือข่ายไอที (IT Outsourcing) และ ธุรกิจด้านประหยัด พลังงาน ซึ่งจะสามารถเสริมสร้างศักยภาพการให้บริการกับลูกค้ารายใหญ่ของทั้ง 2 บริษัท และร่วมกันขยายตลาดลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ (ICT Enterprise Solutions) ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงทำให้ฐานลูกค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายกังวาล กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศเกาหลี หวังเสริมความแข็งแกร่งรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของภาครัฐด้วย โดยคาดว่าจะสรุปรายละเอียดภายในไตรมาส 2/59
นอกจากนี้บริษัทฯยังตรียมที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานไฟฟ้าจากขยะ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าจากภาครัฐฯ ซึ่งจะนำบริษัทลูกเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตร โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% เบื้องต้นคาดกำลังการผลิตราว 5 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมมองหาโอกาสเข้าลงทุนต่อเนื่อง เพื่อกระจายความหลากหลายของธุรกิจ
ด้านนายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท วิชวัน อินโฟ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยคาดว่าจะสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 60 ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้จะขึ้นไปแตะระดับ 500 ล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 58 ที่มีรายได้ 114 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบันมาจากบริการจัดบุคลากรให้แก่บริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับ IT (Out sourcing) 50% และอีก 50% มาจากการขายหลอดไฟฟ้า LED ให้แก่โรงงาน และหน่วยราชการต่างๆ
"ปัจจุบันเรา Out sourcing ให้แก่บริษัทใหญ่ๆหลายบริษัท อาทิเช่น TRUE ,TESCO LOTUS, PEPSI โดยมีบุคลากรกว่า 350 คน และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,000 คน ภายใน 2 ปี ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายหลอด LED ก็ยังมีแนวโน้มขยายตัวอีกมาก เนื่องจากโรงงาน และส่วนราชการอีกหลายแห่งยังไม่ได้ ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนมาใช้หลอด LED ซึ่งหลังจากได้ร่วมกับ IRCP ในการขยายธุรกิจแล้ว จะช่วยบริษัทมีลูกค้ามากขึ้น และช่วยเพิ่มช่องทางการขายอีกมาก ซึ่งหลังจากมีการเติบโตแล้วเราจะต้องการเงินทุนมาใช้ในการหมุนเวียนมากขึ้น เราจึงเตรียมที่จะเข้า mai เพื่อรองรับการขยายงานอีกมาในอนาคต"นายจักรพันธ์ กล่าว