นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงกัน ภายหลังจากที่ผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นปรับตัวลงหลังจากที่เงินเยนกลับมาแข็งค่า
นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังมีความกังวลเศรษฐกิจโลกจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง รวมทั้งวันนี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลในหุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้น SCCC และ SCB ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯให้ปรับตัวลง 1.6 จุด
พร้อมให้แนวรับ 1,375-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1,400 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,897.46 จุด ลดลง 28.97 จุด (-0.16%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,938.22 จุด ลดลง 7.67 จุด (-0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.73 จุด ลดลง 2.05 จุด (-0.10%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 326.78 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 19.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 186.79 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 13.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 22.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.20 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 7.72 จุด
ส่วนตลาดหุ้นเวียดนามปิดทำการวันนี้เนื่องในวันบูชาบรรพกษัตริย์
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 เม.ย.59) 1,385.42 จุด เพิ่มขึ้น 15.58 จุด (+1.14%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 560.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 เม.ย.59) ปิดที่ 40.36 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 เม.ย.59) ที่ 4.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.09 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค รอปัจจัยใหม่ๆ มองกรอบ 35.00-35.15
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.58 เช่น อังกฤษจะออกจากสมาชิกอียู สร้างความเสี่ยงให้เศรษฐกิจโลกชะลอ การลงทุนชะงัก โดยเศรษฐกิจโลกยังต้องพึ่งพานโยบายการเงินและการคลังมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวและสร้างเสถียรภาพ
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย รายงานว่า ระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย. 2559 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลลดลงเกือบทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะรุ่นอายุ 30 ปี ลดลง ถึง 0.16% จากระดับ 2.56% ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 2.40% เป็นผลจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่น Benchmark 30 ปี (LB446A) ในวันอังคารที่ผ่านมา จำนวน 1 หมื่นล้านบาทที่อัตราผลตอบแทน 2.1682% แม้จะมีความต้องการมากกว่าวงเงินประมูล 1.4 เท่า แต่ช่วงห่างของอัตราผลตอบแทนที่ประมูลได้ห่างกันมากถึง 0.15% (2.08-2.23%) แสดงถึงราคาของความต้องการอย่างมากในตราสารระยะยาวของผู้เข้าร่วมประมูล
- ธปท.เผยต่างชาติมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1 แสนล้านบาทในไตรมาสแรก ส่วนใหญ่เข้าซื้อบอนด์ระยะสั้น ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกันทั้งภูมิภาคเอเชีย ชี้อนาคตยังไม่มีความไม่แน่นอนสูงและความผันผวนเป็นระยะๆ ย้ำจะทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพทั้งตลาดการเงินและเศรษฐกิจไทย
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนเดือนมีนาคมและในอีก 3 เดือนข้างหน้ายังลดลงต่อเนื่อง ระบุสะท้อนความเป็นห่วงในด้านรายได้ในอนาคต ส่งผลให้การใช้จ่ายของครัวเรือนยังซบเซาไปอีกระยะ หวังโครงการรัฐเกิดช่วยพยุงเศรษฐกิจ
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยขณะนี้มีค่ายรถยนต์ 4-5 ราย สนใจที่จะเข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เบื้องต้นขอเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดหรือรถที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้าสามารถชาร์จไฟฟ้าที่บ้านก่อน ลงทุนรายละ 20,000 ล้านบาท หรือมีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท คาดยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปลายปีนี้ เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์การเร่งรัดส่งเสริมการลงทุน เชื่อจะทยอยผลิตรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562
*หุ้นเด่นวันนี้
- EPG (ยูโอบี เคย์เฮียน) เป้า 16 บาท แนวโน้มงบปี 59 (เม.ย.58-มี.ค.59) เติบโตต่อเนื่องและไตรมาสล่าสุด (ม.ค.59-มี.ค.59) คาดจะออกมาดีมาก กำไรคาดจะโตกว่า 30%qoq และ 150%yoy ธุรกิจผ่านช่วง low season ไปแล้ว และลุ้นคว้างานฉนวนกันความร้อนสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองที่จะเปิดประมูลเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ แผนเปิดตลาดเพิ่มในเออีซีจะช่วยเพิ่มยอดขายจากอาเซียนจาก 5% เป็น 10% ในปีนี้ และไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายการปิดโรงงานของ TJM ในจีน ทำให้ธุรกิจ ARK สดใสขึ้น
- BEM (โกลเบล็ก) เป้า 5.70 บาท คาดกำไรปี 59-60 เติบโตเฉลี่ย 26% จากการเปิดใช้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่งผลให้กำไรปี 59 และ 60 อยู่ที่ 3,302 และ 4,184 ล้านบาท +25% และ +27% ตามลำดับ และยังมีศักยภาพประมูลงานภาครัฐแบบ PPP ล่าสุดครม.อนุมัติเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลืองแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ในระยะเวลา 33 ปี
- TMB (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 2.8 บาท คาดกำไร 1Q59 ที่ 2,373 ล้านบาท หดตัว 9%QoQ แต่เติบโต 45%YoY โดยคาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังทรงตัว แต่รายได้ค่าธรรมเนียมลดลงตามฤดูกาล แรงกดดันหลักๆ อาจมาจากสำรองหนี้สูญที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับธนาคารอื่น แต่เป็นปัจจัยที่คาดไว้แล้ว ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาสะท้อนปัจจัยลบทำให้ Upside เริ่มกลับมาน่าสนใจ