นายเปรมศักดิ์ วนัชสุนทร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นคิดค้นแนวทางและเทคโนโลยีช่วยเพิ่มความสำเร็จให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย ลดความเสียหายจากปัญหาโรคตายด่วน หรืออีเอ็มเอส จึงพัฒนา “ลูกกุ้งอนุบาลคุณภาพสูงและปลอดเชื้อ" เรียกว่า ลูกกุ้งพูลเล็ต (Pullet) ขึ้น ช่วยให้เกษตรกรนำกุ้งปล่อยลงบ่อเลี้ยงได้ทันที ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อก่อโรคต่างๆ ได้มาก ทำให้ใช้เวลาในการเลี้ยงสั้นลง สามารถ เพิ่มจำนวนรอบการเลี้ยงต่อปีได้มากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมลดลง และรายได้เพิ่มขึ้น
ลูกกุ้งอนุบาล"พูลเล็ต"ที่ปลอดเชื้อ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทนทานต่อการติดโรค เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเกษตรกรในเรื่องลูกกุ้งที่ปลอดจากเชื้อก่อโรคต่างๆ และยังสามารถเพิ่มความสำเร็จในการเลี้ยง เพราะผ่านกระบวนการผลิตมีระบบป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อก่อโรคสำคัญของกุ้งในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ในระบบปิด กระบวนการผลิตในโรงเพาะฟัก รวมถึงบ่ออนุบาลลูกกุ้งมีระบบป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคอย่างเข้มงวด ใช้อาหารที่มีคุณภาพสูง และรวมไปถึงการใช้เทคนิคในการอนุบาลลูกกุ้งที่ได้มาตรฐาน ก่อนส่งถึงมือเกษตรกร ลูกกุ้งอนุบาลทุกชุดจะต้องผ่านการตรวจยืนยันว่าปลอดจากเชื้อก่อโรคที่สำคัญทุกชนิด ทั้งเชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส สายพันธุ์ก่อโรคอีเอ็มเอส และเชื้อไมโครสปอริเดีย"นายเปรมศักดิ์ กล่าว
นายเปรมศักดิ์ กล่าวว่า เกษตรกรตอบรับลูกกุ้งอนุบาลของซีพีเอฟดีมาก เพราะการอนุบาลลูกกุ้งเอง เกษตรกรต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องความรู้ ประสบการณ์และใช้ความเอาใจใส่สูง ดังนั้น ลูกกุ้งอนุบาลของซีพีเอฟจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรสามารถนำลูกกุ้งอนุบาลซึ่งมีขนาด 0.7-1 กรัม ปล่อยลงบ่อเลี้ยงได้ทันที เพราะลูกกุ้งอนุบาลมีความแข็งแรงและทนทานต่อโรคได้ดีกว่าลูกกุ้งขนาดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรจะได้ประโยชน์เต็มที่จากการใช้ลูกกุ้งอนุบาล ผู้เลี้ยงกุ้งต้องมีการจัดการบ่อเลี้ยงและน้ำที่ใช้เลี้ยงให้สะอาด โดยการฆ่าเชื้อในน้ำก่อนนำน้ำมาใช้เลี้ยงและการกำจัดตะกอนเลนที่เกิดขึ้นในบ่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อให้สภาพแวดล้อมในบ่อดีอยู่เสมอ ช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดเชื้อที่ก่อโรค
ด้านนายบำรุง นาพรหม เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี กล่าวว่า เลือกใช้กุ้งอนุบาลที่ปลอดเชื้อของซีพีเอฟ ช่วยลดระยะเวลาในการเลี้ยงให้สั้นลงเหลือ 70-75 วัน ได้กุ้งขนาด 35-40 ตัว/กิโลกรัม ช่วยให้รอบการเลี้ยงกุ้งทำได้ถึง 3.5 รอบใน 1 ปี งโตเร็วและมีอัตรารอดสูงขึ้น ผลผลิตที่ได้จากการใช้ลูกกุ้งอนุบาลอยู่ที่ 2.5 – 3 ตันต่อไร่ ต้นทุนในการผลิตก็ลดลงด้วยเช่นกันจากระยะเวลาเลี้ยงที่สั้นลง