"บีซีพีจี" คาดเสนอขาย IPO 600 ล้านหุ้น ได้ราว Q3-Q4/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 20, 2016 13:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บีซีพีจี บริษัทย่อยของบมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) ยื่นแบบคำขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ประมาณไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2559

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ บมจ.บางจากปิโตรเลียม ถือหุ้น 1.40 พันล้านหุ้น คิดเป็น 99.9% ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือไม่ต่ำกว่า 70.0% ของจำนวนหุ้นสามัญ ภายหลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 5 บาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงแสวงหาการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน โดยในปัจจุบันบริษัทฯ และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศไทย 8 โครงการ เพื่อจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 118 เมกะวัตต์

นอกจากการลงทุนภายในประเทศ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศโดยการพัฒนาหรือการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม ขณะนี้ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นผ่านบริษัท BCPG Japan Corporation โดยมีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 27 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 158 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจในญี่ปุ่นเป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการโครงการโซลาร์ฟาร์มจากกลุ่มซันเอดิสันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นับเป็นการขยายกิจการของบริษัทฯ ทั้งด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าและด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีฐานยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย สามารถใช้สำหรับการขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ตามเป้าหมายการขยายธุรกิจต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ