นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวขึ้น และมองว่าตลาดฯยังคงแข็งแกร่งจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่า ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง
นอกจากนี้ ตลาดฯคงจะได้รับแรงหนุนจากการเข้ามาเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/59 ที่คาดว่าจะออกมาดีด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,429 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,096.27 จุด เพิ่มขึ้น 42.67 จุด (+0.24%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,948.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด (+0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,102.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด (+0.08%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 280.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 18.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 170.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.97 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 เม.ย.59) 1,414.96 จุด ลดลง 1.04 จุด (-0.07%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 140.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 เม.ย.59) ปิดที่ 42.63 ดอลลาร์/
บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 เม.ย.59) ที่ 4.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.96/98 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาผลประชุม ECB คืนนี้
- นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ในฐานะโฆษก เปิดเผยภายหลังประชุม เรกูเลเตอร์ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน พ.ค.-ส.ค. ลง 28.49 สต./หน่วย โดยค่าเอฟทีจะอยู่ที่ติดลบ 33.29 สต./หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ทำให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนอยู่ที่ 3.4227 บาท/หน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับลดลง 7.68% ถือเป็นการปรับลดค่าเอฟทีมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2535
- อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การเก็บภาษีของกรมเดือน มี.ค. 2559 สามารถเก็บได้เกินเป้า 3,560 ล้านบาท หรือ 8.25% เนื่องจากการเก็บภาษีเกือบทุกตัวขยายตัวได้ดี มีเพียงภาษีน้ำมันเท่านั้นที่เก็บได้ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย 580 ล้านบาท
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค. 2559 สูงสุดในรอบ 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง อยู่ที่ 1.92 แสนคัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อน 8.19% ขณะที่เพิ่มจากเดือนก่อนหน้า หรือเทียบเดือน ก.พ. โต 15.86% หรือผลิตได้ 1.66 แสนคัน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานธุรกรรมการโอนเงินรายย่อย จำแนกตามประเภทบริการ ณ สิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า โดยรวมทั้งระบบการโอนเงินยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดการทำธุรกรรม 3,588.533 พันรายการ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 12.8% มีมูลค่ารวม 2.42 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% สะท้อนความนิยมในการโอนจ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชาชนผู้บริโภค เนื่องจากสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลา
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาบ้างจากปัจจัยภายนอก ตามความเชื่อมั่นของตลาดที่ดีขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับขึ้นเหนือ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชัดเจนขึ้นว่าจะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3% เทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ และผันผวนมากขึ้น โดยค่าความผันผวนเฉลี่ยของเงินบาทปีนี้อยู่ที่ 4.5% ล่าสุดเงินบาทเคลื่อนไหวราว 34.80-35.00 บาท/เหรียญสหรัฐ
*หุ้นเด่นวันนี้
- PS (ยูโอบี เคย์เฮียน) จะได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯและความต้องการด้านอสังหาฯ ที่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโครงการแนวราบ นอกจากนี้ยอดพรีเซลอยู่ในระดับสูงและมี dividend yield สูงถึง 4.6%
- THCOM (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 59 หนุนจากการรับรู้รายได้จากดาวเทียม Thaicom 7 และการเปิดให้บริการดาวเทียม Thaicom 8 นอกจากนี้ โดยคาดว่า dividend yield ในปี 59 จะอยู่ที่ 6.2%
- KTC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 120 บาท รายงาน Q1/59 กำไรสุทธิ 635 ล้านบาทดีกว่าคาด การเติบโตของรายได้อย่างแข็งแกร่งเกิดจากธุรกิจบัตรเครดิต และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หนี้เสียดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และคุมค่าใช้จ่ายได้ดี คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ณ สิ้น 1Q16 NPL ลดเหลือแค่ 2% จาก 2.1% ใน Q4/58 มี upside กำไรในปีนี้จาก bad debt recovery ทำได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้ถึง 7% เป็นผลจากการติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด
- TKS (เคจีไอ) เป้า Consensus 10.8 บาท คาดได้ Sentiment บวกจากการประมูลงานพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ และบัตรลงประชามติ (คาดมูลค่าราว 100-200 ล้านบาท) และไปรษณีย์บัตรทายผลฟุตบอลยูโรแข่งขันช่วง มิ.ย.-ก.ค.59 (คาดมูลค่าราว 50 ล้านบาท) อีกทั้ง Valuation ไม่แพง ประเมินกำไรจะเริ่มเร่งตัวขึ้นใน 2H59 จากงานพิเศษต่างๆ
- GFPT (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"แนวโน้มกำไรฟื้นตัว คาดกำไรสุทธิ 291 ล้านบาทใน 1Q16 เพิ่มขึ้น 33% yoy แต่ลดลง 35% qoq โดยยอดขายไตรมาสแรกอาจโตเพียง 1.5% เพราะธุรกิจอาหารสัตว์อ่อนตัวหักล้างผลดีจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นปัจจัยสำคัญผลักดันกำไร นอกจากนี้อุตสาหกรรมมีแนวโน้มสดใสในระยะยาวด้วยยอดส่งออกไก่ที่แข็งแกร่งของไทย