นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีความสนใจประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยรูปแบบการลงทุนมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งการร่วมทุนกับพันธมิตร หรือการเข้าไปลงทุนเอง คาดว่าจะได้ข้อข้อสรุปในไตรมาส 3/59
ส่วนแผนดำเนินธุรกิจในปี 59 บริษัทกำลังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและแนวทางการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน โดยจะเน้นจับกลุ่มตลาดต่างประเมศมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จะเริ่มจากการดึงพันธมิตรต่างชาติเข้ามาร่วมงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในการเริ่มบุกกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจไปยังการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างประโยชน์ให้บริษัท เพื่อเพิ่มช่องทางและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กร โดยพันธมิตรชั้นนำจากต้างประเทศที่เข้าร่วมบริหารงานครั้งนี้ คือ กลุ่ม เมอเวนพิค (Mövenpick) เชนโรงแรมระดับ 5 ดาว จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ประสบความสำเร็จด้วยธุรกิจโรงแรมในเครือมากกว่า 83 แห่งทั่วโลก ซึ่งจะเข้ามาบริหารโครงการของณุศาศิริที่มีอยู่โดยนำร่อง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่, โครงการ ณุศา ศรีราชา และคอนโดมิเนียม อัพ เอกมัย
นายวิษณุ กล่าวว่า เป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีรายได้ 1.2 พันล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 4 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ไนปีนี้ 2 พันล้านบาท โดยจะโอนโครงการ NUSA State Tower โครงการคอนโดมิเนียม อัพ เกษตร-นวมินทร์และพระราม 2 ซึ่งเริ่มมีการทยอยโอนมาตั้งแต่ไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้อยู่ที่ 4 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 3.33 พันล้านบาท โดยไตรมาส 1/59 ทำยอดขายได้แล้ว 10% ของเป้าหมายทั้งปี หรือราว 400 ล้านบาท
ด้านแผนการพัฒนาโครงการในปีนี้บริษัทไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่จะพัฒนาเฟสใหม่ของ 3 โครงการเดิม ได้แก่ NUSASIRI พระราม 2 โซนริมทะเลสาบมูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการขายที่ดินเปล่าให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อที่ดินสำหรับการก่อสร้างบ้านด้วยตนเอง โดยบริษัทจะมีรูปแบบของบ้านตัวอย่างให้ ขณะที่โครงการ MY OZONE เขาใหญ่ เฟส 2 มูลค่า 2 พันล้านบาท และโครงการ NUSA ศรีราชา จะมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมเฟสใหม่อีก 2 อาคาร มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังสต็อกเหลือขาย มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งช่วงไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 บริษัทจะนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทไปเสนอข้อมูลในต่างประเทศ ทั้งไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และพม่า เพื่อเป็นการขยายสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ
อีกทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่นเนื่องในโอกาสที่ณุศา ศิริ ครบรอบ 20 ปี โดยทางบริษัทนำ 3 โครงการคุณภาพ โครงการคอนโด พาร์ค เอ็กซ์โซ เกษตร นวมินทร์ โครงการณุศา สเตท ทาวเวอร์ และโครงการณุศาศิริ ซิตี้ พระราม 2 เข้าร่วมโปรโมชั่น โดยทุกชั้นราคาเดียว ลดสูงสุด 20 % ในวันที่ 27-29 พ.ค.นี้
นายวิษณุ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้มองว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการอนุมัติการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีการร่วมมือกับ AEC เพื่อส่งเสริม SME ประกอบกับสภาพกาวเมืองไทยที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเห็นได้จากตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่สูงขึ้นจากปีก่อน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อไทยเพิ่มมากขึ้น
"ปีนี้เราจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการระดับกลางถึงระดับบน แทนการพัฒนาโครงการระดับล่าง เนื่องจากปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวส่งผลกระทบกับลูกค้าระกับกลางล่างเป็นส่วนใหญ่ โดยจะเน้นจากยอดการปฎิเสธสินเชื่อของธนาคารที่เฉลี่ยอยู่ที่ 10% แต่ยังถือว่าต่ำกว่าอุตสาหกรมที่เฉลี่ยสูงกว่า 20 % อีกทั้งการพัฒนาโครงการระดับบนเป็นโครงการที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญทำให้เป็นโอกาสที่จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโต"นายวิษณุกล่าว
ส่วนการลงทุนในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ที่ปัจจุบัน NUSA ถืออยู่ในสัดส่วน 1.17% บริษัทยังคงสัดส่วนดังกล่าวอยู่ และยังชะลอการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน WEH เนื่องจากปัจจุบัน WEH ยังไม่ได้ให้ผลตอบแทนแก่บริษัท รวมทั้งบริษัทมีการชะลอการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน เพราะมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับบริษัทจะยังคงเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทให้มีการเติบอย่างยั่งยืน