นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส (GLOBAL) กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 880.59 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทเน้นการขายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งให้มาร์จิ้นสูงกว่า 40% และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 18-20% จากปีก่อนที่ 15.58%
ขณะที่นายอนวัช สุริยวนากุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBAL กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.74 หมื่นล้านบาท โดยแผนการดำเนินงานในปีนี้จะเน้นการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงร้านของบริษัทได้ง่ายขึ้น ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายขยายสาขาในประเทศเพิ่มอีก 12 สาขา โดยใช้งบลงทุน 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในสิ้นปีนี้มีสาขาในประเทศเป็น 50 สาขา จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 38 สาขา โดยไตรมาส 2/59 จะมีการเปิดสาขาใหม่ 4 สาขา ได้แก่ สามโคก ศาลายา สมุทรสาคร และปทุมธานี
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนสำหรับการขยายสาขาภายใน 5 ปี (59-63) อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยเงินลงทุนมากกว่า 50% จะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้สถาบันการเงิน
ส่วนการขยายธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทคาดว่าปีนี้จะได้ข้อสรุปการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นจัดตั้งสาขาแรกในกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา หลังจากที่ผ่านมาได้เข้าไปถือหุ้นใน บมจ.สุวันนี โฮมเซ็นเตอร์ (Souvanny) บริษัทท้องถิ่นในลาว ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านบริษัท โกลบอลเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(GBI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GLOBAL และบริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด (SCG) ในสัดส่วนฝ่ายละ 50% ถือหุ้นในใน Souvanny 40% และยังมีการลงทุนในพม่าที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น 50% ในบริษัทท้องถิ่น โดยบริษัทมีนโยบายขยายการลงทุนในต่างประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เป็นหลัก
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 59 บริษัทคาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท เป็นผลมาจากสัญญาณการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 1/59 ที่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้จากไตรมาส 4/59 ที่ติดลบ 3% เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีการซื้ออุปกรณ์เพื่อมาซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมาย SSSG เติบโต 10%
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้บริหารถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษเรื่องการมช้ข้อมูลอินไซด์ ซึ่งผิดหลักธรรมภิบาลของบริษัทจดทะเบียน โดยยอมรับว่ามีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในช่วงแรก ซึ่งเห็นได้จากราคาหุ้น GLOBAL ปรับลดลงหลังผู้บริหารถูกกล่าวโทษ แต่หลังจากผู้บริหารแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกไปแล้ว นักลงทุนต่างก็กลับมามีความเชื่อมั่นในตัวบริษัทมากขึ้น ทำให้ราคาหุ้นฟื้นกลับมาเป็นปกติ
ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามรักษาและควบคุมเกี่ยวกับพฤติกรรมเรื่องธรรมภิบาลของผู้บริหารให้เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง และจะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนโดยการสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง