นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 59 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นภาพที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/59 หลังได้รับโอกาสจาก 7-Eleven ให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ จากเดิม 2,500 แห่ง ขยายเป็น 5,000 แห่ง เนื่องจากความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ส่วน ชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด เติบโตตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Cafe) ในร้าน 7-Eleven กว่าเท่าตัว เพิ่มเป็น 2,300 จุด จากปีก่อนมีเพียง 1,000 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า
ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ (Vending Machine) ตามแผน โดยปัจจุบันติดตั้งแล้ว จำนวน 45 เครื่อง และมี List รายชื่อที่รอติดตั้งอีกจำนวน 600 สาขา โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 59 จะมีทั้งสิ้น 750 เครื่อง ปี 60 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง รวมเป็น 1,500 เครื่อง กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศตามแผน มูลค่าลงทุนรวม 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ระดมทุนได้จากการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในปีที่ผ่านมา
“ในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จาก 1,004 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากธุรกิจที่มีการร่วมพัฒนา (B2B) ร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งถือว่า 7-Eleven มอบความไว้วางใจและเป็นคู่ค้าพันธมิตรกัน ซึ่งในปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก B2B จะอยู่ที่ 80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าที่จำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ภายใต้แบรนด์ของบริษัท เช่น เครื่องดื่มชาเขียว "เซนย่า" กาแฟ "วี-สลิม" เครื่องดื่ม"ณ อรุณ" และเครื่องดื่ม "สวัสดี""นายชัชวี กล่าว
ขณะที่บริษัทฯเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม และอยู่ระหว่างศึกษาการขยายช่องทางการส่งออกในต่างประเทศเพิ่ม