นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในสหภาพยุโรป กำลังการผลิตราว 40-60 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งต้องมีอัตราผลตอบแทน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 10% โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปีนี้
ขณะที่การลงทุนโครงการโรงฟ้าจากถ่านหินนั้น บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งใกล้กับแหล่งวัตถุดิบของบริษัทฯ โดยเน้นการศึกษาไปในประเทศอินโดนีเซีย ขนาดกำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในปีนี้ "ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ทั้งใน ยุโรป และ AEC ซึ่งคงจะได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้ โดยแหล่งเงินทุนคงจะมาจากเงินกู้ทั้งหมด และคงไม่มีการเพิ่มทุน เพราะปัจจุบันเรามีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.7 เท่า และมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2.5 เท่า คิดเป็นวงเงินกู้ราว 8 พันล้านบาท ซึ่งคงจะเพียงพอต่อการลงทุน"นายขจรพงศ์ กล่าว นายขจรพงศ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถขายถ่านหินปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 11 ล้านตัน และมีรายได้เติบโต 10% จากปีก่อนมีรายได้ 1.68 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อถ่านหินแล้วถึง 70% ของเป้าหมายทั้งหมด ซึ่งบริษัทเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า เช่น จีน , เกาหลีใต้ และอินเดีย และล่าสุดมีลูกค้ารายใหม่จากบังคลาเทศ และฮ่องกง เพิ่มเข้ามา และปีนี้บริษัทฯได้ยื่นประมูลจำหน่ายถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศไต้หวันด้วย
"ปีนี้เราคงไปเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และขายถ่านหินตามสเปก ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เพื่อที่จะทำให้ผลประกอบการออกมาดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 1/59 ก็จะเดินอย่างช้าๆแล้วในช่วงไตรมาส 2-3 จะเริ่มเติบโตได้ดีเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของเรา และในปีนี้เองเราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะทำได้ตามแผนเพราะเรามีออเดอร์ในมือแล้วกว่า 70% ของเป้าหมาย แต่ในส่วนกำไรเรายังไม่สามารถบอกได้ว่าจะออกมาในทิศทางใด เพราะมีตัวแปรอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ราคาถ่านหิน และราคาน้ำมัน"นายขจรพงศ์ กล่าว