นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) คาดว่าจะสามารถสรุปโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษางานด้านวิศวกรรม ,ลูกค้า และพันธมิตร การเลือกสถานที่ตั้ง รวมถึงการเจรจากับกลุ่มแบงก์ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน ซึ่งขณะนี้มองว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเพราะราคาพลังงานยังอยู่ในระดับต่ำและตลาดการเงินมีสภาพคล่องสูง
"ความคืบหน้าอยู่ระหว่างศึกษาทางด้านวิศวกรรม หาลูกค้า หา partner เรื่องเลือกสถานที่ตั้ง เราก็มีการพูดคุยเจรจากับผู้ให้การสนับสนุนทางการเงิน ต้นปีหน้าทุกอย่างก็น่าจะสรุปว่าสุดท้ายจะเดินหน้าหรือเปล่า ช่วงนี้ก็เป็นโอกาสเพราะราคาพลังงานต่ำ ค่าก่อสร้างก็ต่ำ ฐานะการเงิน การปล่อยกู้ในตลาดยังมีจำนวนมาก" นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าการลงทุนของโครงการได้ในขณะนี้ ซึ่งเบื้องต้นต้องมีการพิจารณาให้ครอบคลุมทุกประเด็นทั้งในส่วนของความคุ้มทุนของโครงการ ลูกค้าของโครงการ เป็นต้น
อนึ่ง PTTGC มีแผนที่จะลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐ มูลค่าเบื้องต้นราว 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐใช้วัตถุดิบก๊าซอีเทนจากก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) โดยบริษัทเลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่มลรัฐโอไฮโอ โดยวางเป้าจะมีกำลังการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน/ปี และมีมารูเบนีจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรแล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพิ่มเติมอีก
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการที่นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ กรรมการ ของ PTTGC ไปดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารและที่ปรึกษาของ บมจ.บ้านปู (BANPU) ซึ่งล่าสุดได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจ Shale Gas ในสหรัฐนั้น เห็นว่าไม่มีความขัดแย้งทางธุรกิจระหว่างกัน เนื่องจากธุรกิจของ PTTGC เป็นปิโตรเคมีปลายน้ำ ส่วนการที่ BANPU เข้าไปลงทุนในธุรกิจ Shale Gas นั้นนับเป็นธุรกิจต้นน้ำ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะลงทุนขยายงานในประเทศด้วย โดยจะเป็นเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยต้นทุนที่ต่ำ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงจะเน้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย ตลอดจนการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันเศรษฐกิจขยายตัวแบบ S CURVE
วันนี้ PTTGC ได้ส่งมอบถังบรรจุน้ำขนาด 1,500 ลิตร จำนวน 200 ใบ ให้กับพลังงานจังหวัดในการนำไปช่วยประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่นั้น เป็นผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมพลาสติกของบริษัท ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น (LLDPE) ภายใต้แบรนด์ InnoPlus ซึ่งมีคุณสมบัติคงทนแข็งแรง และทนแรงกระแทกสูง