สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (18 - 22 เมษายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 489,193.32 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 97,838.66 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 215% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 68% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 334,858 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 118,792 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 12,066 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 1.2 ปี) LB25DA (อายุ 9.6 ปี) และ LB206A (อายุ 4.2 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 24,242 ล้านบาท 24,106 ล้านบาท และ 14,738 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) รุ่น TISCO166A (A) มูลค่าการซื้อขาย 1,133 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น LH174A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 1,001 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รุ่น THAI17OA (A) มูลค่าการซื้อขาย 899 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในตราสารระยะยาว โดยตราสารรุ่นอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 9 bps. จาก 1.72% ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 1.81% ต่อเนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ นอกจากนี้ประธาน ECB กล่าวว่าจะใช้เครื่องมือทางการเงินทั้งหมดอย่างต่อเนื่องเท่าที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน ขณะที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเม็ดเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เข้าสู่ตลาดโดยการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง ด้านสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน (Housing starts) ประจำเดือน มี.ค. ปรับลดลง 8.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2558 ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ประจำเดือน มี.ค. ซึ่งจะรายงานในวันจันทร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา (18 เม.ย. - 22 เม.ย. 59) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 11,191 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 5,485 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 6,921 ล้านบาท โดยมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ (Expired) 12,627 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (18 - 22 เม.ย. 59) (11 - 12 เม.ย. 59) (%) (1 ม.ค. - 22 เม.ย. 59) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 489,193.32 155,125.83 215.35% 7,462,224.26 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 97,838.66 77,562.92 26.14% 99,496.32 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 115.35 115.81 -0.40% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 108.67 108.81 -0.13% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (22 เม.ย. 59) 1.35 1.36 1.36 1.41 1.53 1.81 2.16 2.54 สัปดาห์ก่อนหน้า (12 เม.ย. 59) 1.35 1.36 1.36 1.36 1.5 1.72 2.08 2.49 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 0 0 5 3 9 8 5