นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) คาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1-2% จากระดับ 4.29% ในปีก่อน หลังจะลงทุนติดโซลาร์รูฟเพื่อช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ขณะที่ออกสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง โดยล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ AIR LOCK ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ทดแทนยางใน 100% ซึ่งจะเริ่มทดลองตลาดในช่วงไตรมาส 2/59 และคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งหลังปีนี้
บริษัทวางเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่เติบโตราว 5-10% ซึ่งจะมีการทดลองตลาดเพื่อดูความต้องการของลูกค้า โดยวางงบการตลาดในสินค้าดังกล่าวไว้ราว 10 ล้านบาท ขณะที่จะใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่อีก 5 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำลังการผลิต 12 ล้านชิ้น/ปี ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้เติบโตมาที่ 1,000 ล้านบาท จากราว 797 ล้านบาทในปีก่อน
"เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นตัวทดแทนยางในของรถมอเตอร์ไซด์ โดยในตลาดยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวนี้ คาดว่ามาร์จิ้นจะดีกว่าสินค้าเดิม 1-2% และในเบื้องต้นไตรมาส 2/59 ก็จะทดลองตลาดเพื่อดูความต้องการของลูกค้า ซึ่งน่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในครึ่งปีหลังเป็นต้นไป"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทยังจะลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟ) กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟได้ราว 12% หรือ 5-7 ล้านบาท/ปี จากเดิมที่ต้องเสียค่าไฟราว 3.5 ล้านบาท/เดือน โดยการติดตั้งโซลาร์รูฟ อยู่ระหว่างยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติได้ในเดือนพ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะใช้เวลาก่อสร้างราว 60-90 วัน
นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เมียนมาร์ มาเลเซีย และลาว โดยคิดเป็นสัดส่วน 55% ของรายได้รวม ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 80-100 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการติดตั้งโซลาร์รูฟ 50 ล้านบาท และใช้ในการลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่และผลิตภัณฑ์เดิม รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องจักรด้วย