นายกมล ตั้งจิตเจริญชัย รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รฟท.เตรียมเปิดประมูลและเคาะราคาโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาทได้ประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ โดยวิธีประมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) หากวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ
หลังจากนี้ รฟท.จะเปิดร่างประกวดราคาและเงื่อนไข (TOR) โครงการรถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ในเวบไซด์ของ รฟท. เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นระยะเวลา 5-7 วัน หากไม่มีผู้คัดค้าน รฟท.ก็จะเปิดขายซองประกวดราคา และให้ยื่นซองประมูลได้ประมาณปลายเดือนพ.ค.นี้
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.48 หมื่นล้านบาท ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2.03 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะนำเข้าเสนอต่อที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการ ในอีก 1-2 สัปดาห์ และคาดว่าจะเปิดประมูลเคาะราคาได้ในเดือนก.ย. นี้ ด้วยวิธี e-Auction เหมือนกัน
"แต่ละเส้นทางจะไม่แบ่งเป็นสัญญาย่อย จะเป็นสัญญาเดียวตลอดเส้นทาง เราคิดว่าเส้นประจวบฯ-ชุมพรได้ตัวผู้รับเหมาในเดือนส.ค. แต่เซ็นสัญญาเมื่อไรก็ดูกันอีกที และอีก 3 เส้นทางก็จะได้ผู้รับเหมาในเดือน ก.ย.... มีอุปสรรคอยู่ตลอดเส้นทาง ทำให้โครงการถไฟทางคู่ล่าช้าไปประมาณ 4 เดือนจากแผน"นายกมล กล่าว
ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงินประมาณ 9,437 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโครงการระยะที่ 2 แต่กระทรวงคมนาคมดึงมาดำเนินการเพื่อให้เส้นทางนี้เชื่อมต่อจากโครงการระยะแรก โดยขณะนี้รอนำเสนอให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) เห็นชอบรายงานการจัดทำด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ในต้นเดือน พ.ค.หลังจากผ่านความเห็นขอบในชั้นตอนอนุกรรมการแล้ว โดยคาดว่ารถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์จะเปิดประมูลได้ในเดือน ธ.ค.นี้
นายกมล กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไทมักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กม. วงเงิน 44,157.76 ล้านบาทนั้น ล่าสุด EIA ทั้งสองเส้นทางได้ผ่านความเห็นชอบของ คชก.แล้ว จากนี้จะได้นำส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งโครงการจะนำเข้า ครม.ได้เมื่อใดนั้นขึ้นกับการพิจารณาของ สศช.