สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 เนื่องจากบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายผู้ถือหุ้นของบมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 140 ล้านหุ้น โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai และวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการและรองรับการขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสง, ใช้เป็นเงินร่วมลงทุนเพื่อให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ และใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน
บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเอง จากสำนักงานคณะกรรมการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอนุญาตให้บริษัทฯให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมประเภทโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Network) ซึ่งโครงข่าย Interlink Fiber Optic ของบริษัทฯเป็นโครงข่ายซึ่งผสมผสานระหว่างโครงข่ายหลักตามเส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางสำรองและเส้นทางย่อย ตามเส้นทางถนนผ่านเสาไฟฟ้า สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดต่าง ๆ รวม 72 จังหวัดทั่วประเทศ (ณ วันที่ 31 มี.ค.59) นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม และให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 2,432.59 ล้านบาท หนี้สินรวม 2,107.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 325.02 ล้านบาท และมีรายได้รวม 436.89 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 357.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 30.87 ล้านบาท
โครงการในอนาคต บริษัทฯมีแผนที่จะขยายบริการเพื่อให้ครอบคุลมด้านโทรคมนาคมภายใต้โครงการในอนาคต ดังนี้ 1. ปรับปรุงและขยายประสิทธิภาพของโครงข่าย จากที่บริษัทฯสามารถให้บริการลูกค้าในพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ 72 จังหวัด ณ วันที่ 31 มี.ค.59 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเป็น 75 จังหวัด ภายในไตรมาส 2/59 และสืบเนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ผู้ใช้งานต้องการช่องสัญญาณขนาดใหญ่ เป็นผลให้บริษัทฯต้องขยายประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว
โดยบริษัทฯจะลงทุนในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับโครงข่าย เช่น MPLS และ DWDM และรวมถึงอุปกรณ์ Node เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพการให้บริการ จากเดิมี่ 10 Gbps เป็น 40 Gbps ยังรวมถึงการขยายประสิทธิภาพโครงข่าย DWDM เพื่อให้บริการพื้นที่ที่ในปัจจุบันสามารถให้บริการแค่เพียง MPLS เพื่อรองรับการเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้โครงข่ายโทรคมนาคมของไทยเป็นหัวใจหลักของภูมิภาค โดยมูลค่าการลงทุนดังกล่าว อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนปรับปรุงอุปกรณ์โครงข่าย DWDM ประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะลงทุนภายในไตรมาส 2/60 และจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 2/60 นอกจากนี้จะปรับปรุงโครงข่ายทั่วประเทศประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะลงทุนภายในไตรมาส 3-4 ปี 59 เพื่อขยายประสิทธิภาพของอุปกรณ์โครงข่าย MPLS
นอกจากนี้ จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่าการร่วมลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยมีร่วมลงทุนในสัดส่วน 33.33% ภายใต้การบริหารจัดการโดย บริษัทร่วมทุน ขนาดของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ประมาณ 600 Racks จะลงทุนภายในไตรมาส 2/59 และสามารถเปิดให้บริการภายในปี 60
ณ วันที่ 21 เม.ย.59 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 500 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 11 พ.ค.2558 คือ บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) ถือหุ้น 299,999,300 หุ้น คิดเป็น 99.99977% ภายหลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 59.99986%
บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯในแต่ละปี หลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย