นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก คาดว่าภาวะตลาดหุ้นไทย (SET Index) จะยังแกว่งตัวในกรอบ 1,400-1,430 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกระแสเงินทุนนต่างชาติชะลอการเข้าซื้อหลังจาก P/E ของ SET พุ่งขึ้นมาที่ 21 เท่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงในระยะสั้นด้วย อย่างไรก็ตาม มองว่าการย่อตัวเป็นจังหวะเข้าซื้อต่อเนื่องจากมีประเด็นการประกาศงบไตรมาส 1/59 ที่จะทยอยประกาศถึง 16 พ.ค.นี้
ด้าน น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อีกทั้ง มองว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ไหลกลับเข้าไทยอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่ำลง บวกกับเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน นอกจากนี้ ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 59 ขึ้นสู่ระดับ 41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ 37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงต้องจับตาประเด็นเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ อาทิ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มด้วยการใช้นโยบาย QE มากกว่าการใช้ดอกเบี้ยติดลบเพื่อแก้ปัญหาส่งออก ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว รวมทั้งทางสหรัฐเองจะมีการรายงานตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 1/59 ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ของไทยจะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนวันที่ 29 เม.ย.นี้ และยูโรโซนเปิดเผยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 1/59
ขณะที่ นายชัยยศ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในการซื้อสะสมแบบ Selective Buy ในหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2559 เติบโต เช่น AOT, BA, AAV, EPG, CPF, WORK, SMT, LPN, PTG, BJCHI, COM7, BANPU, TWPC, TVD และ XO
นอกจากนี้แนะนำเก็งกำไรหุ้น STA, TRUBB รับปัจจัยบวกจากราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 195 เยน/กิโลกรัม และการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 5,479 ล้านบาทสำหรับใช้ในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จากแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ลดลงผิดคาดในเดือนมี.ค.และการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน มี.ค. รวมถึงดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.พ.
ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลงหลังธนาคารบาร์เคลย์ระบุว่ายังไม่เชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นหรือคงอยู่ที่ระดับเดิมได้ มอร์แกน สแตนลีย์ เผยว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเกิดจากคำสั่งซื้อของเฮดจ์ฟันด์โดยไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้นักลงทุนบางส่วนออกจากตลาดน้ำมันและมาลงทุนในตลาดทองคำแทน นอกจากนั้น ยังคาดการณ์กันว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่ 26-27 เม.ย.นี้และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ส่วนการประชุม BOJ คาดการณ์ว่าจะขยายนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ซึ่งจะสร้างแรงหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
ดังนั้น ประเมินว่าแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยล่าสุดราคาทองเริ่มสร้างแท่งเทียนที่เรียงตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้นและสามารถไต่ขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่แกว่งตัวใกล้กัน ทำให้ราคาทองกลับมาอยู่ในแนวขึ้นไหล่ขวาอีกครั้ง และค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาแนวโน้มปรับขึ้นต่อ จึงให้กรอบแนวรับที่ 1,220-1,215 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์