(เพิ่มเติม) BEC คาดรายได้-กำไรปีนี้ไม่โตรับผลศก.ฟุบ-รายจ่ายสูง, รับ"สรยุทธ"พ้นจอทำเรตติ้งข่าวร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 28, 2016 18:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) คาดว่า รายได้ของบริษัทปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.6 หมื่นล้านบาท และกำไรก็คาดว่าจะมีทิศทางเดียวกัน ซึ่งสาเหตุที่รายได้ไม่เติบโตขึ้นมาจากภาวะของอุตสาหกรรมธุรกิจสื่อที่เกิดการชะลอตัว หลังจากแนวโน้มการใช้เม็ดเงินค่าโฆษณาของผู้ประกอบการต่างๆทั้งตลาดที่ใช้ในสื่อที่เป็น Traditional ได้แก่ ทีวี สิ่งพิมพ์ และป้ายโฆษณาต่างๆลดลง 9%

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้เม็ดเงินการใช้โฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลจะลดลง 10% และในส่วนของช่อง 3 เองคาดว่าจะลดลงกว่า 3% ซึ่งการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่สดลงของผู้ประกอบการต่างๆ มีสาเหตุมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาภัยแล้งได้บส่งผลกระทบให้การบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนหดตัวลงตาม และส่งผลมาสู่ผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ใช้สื่อโฆษณาทางทีวีเป็นส่วนใหญ่

"ทางฝ่ายบริหาร มองว่าในครึ่งปีแรกเม็ดเงินโฆษณาจะยังหดตัวอย่างมาก เพราะภาพรวมทางเศรษฐกิจหลายๆยังไม่ฟื้นตัวขึ้น แต่จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง หากหน้าฝนที่จะถึงนี้มีฝนตกมาอย่างเพียงพอที่เกษตรกรจะทำการเกษตรได้ และทำให้รายได้ของกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผู้ใช้สินค้าของผู้ประกอบการที่ลงโฆษณากับทางช่อง 3 ประกอบกับในไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามาก เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี แต่ก็ยอมรับว่าครึ่งปีแรกของทางช่อง 3 เองก็ยังมีรายได้ค่าโฆษณาเข้ามาไม่ดีอยู่ แต่จะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมในครึ่งปีหลัง"นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ค.59 ทางบริษัทจะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตของช่องดิจิตอลทั้ง 3 ช่องในงวดที่ 3 จำนวนเงิน 1.3 พันล้านบาท และแนวโน้มต้นทุนในปีนี้คาดว่าจะค่อยๆทยอยลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ทำการลงทุนไปมากแล้วในช่วงปีแรก (ปี 57) ของการเริ่มเปิดบริการทีวีดิจิตอล ซึ่งปีที่แล้วการลงทุนได้ลดลง และมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อในปีนี้

ประกอบกับการบริหารต้นทุนการดำเนินงานด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเข้ามาชดเชยรายได้จากค่าโฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทที่จะปรับตัวลดลงในปีนี้ ซึ่งบริษัทก็ยังไม่มีแผนการปรับเพิ่มค่าโฆษณาของทุกช่องที่เฉลี่ยรวมอยู่ที่ 200,000 บาท/นาที ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อเม็ดเงินค่าโฆษณาที่หดตัวทั้งตลาด ซึ่งการที่บริษัทมีการควบคุมต้นทุนที่ดีจะช่วยส่งผลให้บริษัทอาจจะมีกำไรในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน

ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวว่า ช่อง 3 ในระบบอนาล็อกและช่อง 3HD ในปีนี้จะต้องมีการปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะรายการในช่วง Non-Primetime หลัง 5 ทุ่ม เนื่องจากแนวโน้มการซื้อโฆษณาในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะอัตราค่าโฆษณาสูงกว่ารายการของช่องคู่แข่งอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการหันไปซื้อช่วงเวลาในช่วงดังกล่าวของช่องอื่นแทน ส่งผลให้รายได้ในช่วงเวลาดังกล่าวหายไปอย่างมากและส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา

บริษัทพยายามหารายการที่น่าสนใจที่ลูกค้ามองว่าคุ้มค่าในการในการซื้อโฆษณาเข้ามาช่วย รวมไปถึงการหารายได้จากค่าโฆษณาของรายการการ์ตูนที่บริษัทได้ร่วมมือกับ Dreamwork Picture และ Waku Waku Japan ในช่วงเย็นที่เข้ามาแทนช่วงเจาะประเด็นเด็ดที่นายสรยุทธ สุทัศนจินดา เป็นพิธีกร แต่ผลตอบรับของลูกค้าก็ยังไม่ดีขึ้น เนื่องผู้ประกอบการยังไม่เชื่อมั่นในการใช้สื่อโฆษณาในรายการการ์ตูนหรือรายการเด็ก

ขณะที่รายการข่าวของทางช่อง 3 นั้นได้รับผลกระทบในเรื่องเรตติ้งที่ลดลงบ้าง โดยเฉพาะรายการเรื่องเล่าเช้านี้ หลังจากนายสรยุทธยุติบทบาททางหน้าจอตั้งแต่เดือน มี.ค.โดยมาถึงปัจจุบันเรตติ้งลดลงไป 0.4-0.5 และรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ลดลงไป 0.27 มาอยู่ที่ 2.175 จากเดิมที่ 2.45 ส่วนรายการเรื่องเด่นเย็นนี้เรตติ้งลดลงเป็น 1.18 จากเดิมที่ 1.2 แต่อย่างไรก็ตามรายการข่าวของช่อง 3 ยังคงครองแชมป์รายการข่าวอันดับ 1 ได้อยู่ตามการสำรวจของเอซีเนลซัน

อย่างไรก็ตาม แม้เรตติ้งของรายการข่าวลดลง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ค่าโฆษณาลดลงตามเล็กน้อย โดยเฉพาะรายการเรื่องเล่าเช้านี้ยังลดลงน้อยกว่ารายการอื่นของช่อง 3 ซึ่งมีสาเหตุอื่นส่วนหนึ่งมาจากสภาพตลาดที่ยังคงไม่ดี

นายสุรินทร์ เปิดเผยอีกว่า ช่อง 3 ยังพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างลุ้นลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลก อย่างเช่น การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016 ที่จะเริ่มในวันที่ 10 มิ.ย. โดยในเย็นวันนี้ทางบริษัทมีโอกาสที่จะได้สิทธิในการถ่ายทอดสดครบ 51 แมตซ์ จากเดิมที่ได้สิทธิ์ถ่ายทอด 20 แมตซ์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนรายได้ในไตรมาส 2/59 อีกทั้งยังได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันวอลเลย์บอล เวิลด์ กรังส์ปรี (FIVB) ที่จะหนุนรายได้ไนไตรมาส 3/59 และลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการ Motor GP

ในด้านช่องทีวีดิจิตอลช่อง 3SD ทางบริษัทมีแผนการสร้างละครใหม่แกะกล่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.30-20.30 น. เพื่อเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่ช่อง 3SD ได้มีการรีรันละครเก่าของทางช่อง 3 และเป็นการแข่งขันกับละครในช่องอื่นได้ เพื่อแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณา และรุกขยายฐานและเจาะกลุ่มผู้ชมต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเนื้อหาจะมีความรุนแรงมากกว่าละครที่ออนแอร์ทางช่อง 3 และช่อง 3HD ซึ่งมีกำหนดเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 19 พงค.59

ปัจจุบันได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เข้ามาซื้อโฆษณาในช่วงละครใหม่ของช่อง 3SD นี้ และได้อัตราโฆษณาที่สูงกว่าช่องอื่นๆ โดยมีอัตราค่าโฆษณาอยู่ที่ 180,000 บาท/นาที ขณะที่ช่องอื่นๆอยู่ในระดับราคาหลักหมื่นบาท/นาที ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะปั้นช่อง 3SD ให้ประสบความสำเร๊จในปีนี้จากการปรับรูปแบบของรายการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเดิมและกลุ่มเป้าหมายใหม่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้ของช่อง 3SD ในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตในช่วงไตรมาส 1/59 ของช่อง 3SD เติบโตแล้วกว่า 100%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ