BH ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 8-10% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติรับผลศก.ซบ,ชะลอแผนสร้างรพ.ใหม่บนถนนเพชรบุรีฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 29, 2016 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์นำ ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เปิดเผยว่า รายได้ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในปี 59 ตั้งเป้าเติบโต 8-10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.79 หมื่นล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่เติบโตปีละ 12% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศยังคงชะลอตัว ประกอบกับราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ กระทบต่อรายได้ของกลุ่มลูกค้าหลักของโรงพยาบาล คือ กลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามาใช้บริการลดลงบ้าง

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลพยายามหารายได้ไนการรักษาด้านอื่นเข้ามาชดเชย อย่างเช่น การให้บริการทางการแพทย์ในรูปแบบใหม่ในการรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนมากขึ้น ประกอบกับการนำเทคนิคการรักษาแบบใหม่เข้ามาใช้ ได้แก่ การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งในปีนี้โรงพยาบาลตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากการรักษาโรคพิเศษที่มีความยากและซับซ้อนเติบโต 3.5%

นอกจากนี้ ยังปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลโรคทั่วไปเพิ่มอีก 5% ในปีนี้เพื่อให้ค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยต่อหัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลช่วยให้รายได้รวมเติบโตขึ้นได้ อีกทั้งภายในเดือน พ.ค.นี้คลินิกการแพทย์ของโรงพยาบาลในย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะช่วยให้จำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการสูงขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 58-62) ไว้ตั้งงบลงทุนไว้ 1.3 หมื่นล้านบาทนั้น นายแพทย์นำ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ชะลอการลงทุนสร้างโรงพยาบาลบำรุงรษฎร์ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บนที่ดินราว 5 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท จากกำหนดเดิมที่จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ หลังจากประเมินภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมยังคงชะลอตัว และส่งผลกระทบมาถึงจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการมีแนวโน้มลดลง โดยคาดว่าจะชะลอออกไปราว 3-5 ปีหลังจากนั้นจึงจะหยิบยกมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง

"โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลบนภนนเพชรบุรีของเราก็ได้ตัดสินใจที่จะชะลอออกไปก่อน เหตุผลหลักก็มาจากสภาพเศรษฐกิจที่เห็นกันว่ายังชะลอตัวอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่ฝ่ายบริหารเห็นโอกาสให้การลงทุนอีกครั้งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปี"นายแพทย์นำ กล่าว

ส่วนการขยายอาคารของโรงพยาบาลบริเวณท้ายซอยสุขุมวิท 1 ที่มีที่ดินอยู่ 4 ไร่ โดยจะสร้างเป็นอาคารจำนวน 3 อาคาร พื้นที่รวม 26,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนกว่า 3 พันล้านบาทยังคงเดินหน้าตามเดิม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับการรักษาผู้ป่วยนอก การใช้เป็นสถานอบรมและพัฒนาบุคคลากรของโรงพยาบาล และเพิ่มพื้นที่จอดรถ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 62 ส่วนการปรับปรุงและขยายพื้นที่ของตึก BI Tower อีก 8,100 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดใข้งานได้ในปี 60

นายแพทย์นำ กล่าวว่า ในปีนี้โรงพยาบาลยังคงจำนวนเตียงผู้ป่วยที่ลงทะเบียนไว้เท่ากับปีก่อนที่ 580 เตียง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เป็นลูกค้าหลักลดลงจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ดี ทำให้แนวโน้มของจำนวนการครองเตียงในปีนี้อาจจะต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 78% ของจำนวนเตียงที่ลงทะเบียนไว้ โดยแนวโน้มผู้ป่วยใน (IPD) ปีนี้มีโอกาสเติบโตต่ำกว่าปีก่อนที่เติบโต 2.1% ประกอบ ปีนี้ทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น

ด้านการลงทุนในต่างประเทศหลังจากได้มีการลงทุนเปิดคลินิกในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ แล้วนั้น ทางโรงพยาบาลยังไม่มีแผนที่จะขยายเข้าไปในประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) หรือตะวันออกกลาง เนื่องจากโรงพยาบาลต้องการเน้นการบริหารงานของคลินิกในเมียนมาร์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อดูผลลัพท์จากการลงทุนก่อน อีกทั้งตลาดในเมียนมาร์ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก จากความต้องการรักษาโรคมีค่อนข้างมาก ซึ่งโรงพยาบาลมีฐานลูกค้าใช้บริการมากอีกประเทศหนึ่ง

โรงพยาบาลยังไม่มีแผนการลงทุนตั้งโรงพยาบาลในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะมีพันธมิตรหลายรายเข้ามาพูดคุยก็ตาม เนื่องจากกฏเกณฑ์ไนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติไม่สามารถถือหุ้นได้มากกว่า 49% ทำให้เกรงว่าจะไม่มีอำนาจในการบริหารงานอย่างแท้จริง และอาจจะเกิดอุปสรรคในการบริหารงานได้ อย่างเช่น เรื่องคุณภาพมาตรฐานการรักษาและการให้บริการที่อาจจะไม่เป็นไปตามรูปแบบของโรงพยาบาลที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ด้านนางอรุณี เกษตระทัต กรรมการอิสระ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ของ BH กล่าวว่า นายชัย โสภณพนิช ยังมีคุณสมบัติในการดำรงตำแน่งเป็นประธานกรรมการของ BH ต่อไป แม้ว่านายชัยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปรียบเทียบปรับและไม่อนุญาตให้เป็นบุคลากรในตลาดทุนเป็นเวลา 3 ปี ในความผิดฐานใช้ข้อมูลภายในบอกกับบุคลลภายนอก (อินไซด์เดอร์) ในกรณีบมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI)

ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบของ BH ได้รับการยืนยันจากการสอบถามกับทางก.ล.ต.ว่านายชัย โสภณพนิช ยังมีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการของ BH ได้อยู่ อีกทั้งความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่านายชัยไม่ได้มีเจตนาในการกระทำในการใช้ข้อมูลอินไซด์เพื่อหาประโยชน์ส่วนตน รวมถึงไม่ได้เอาเปรียบผู้ถือหุ้น BKI และบุคคลภายนอก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการจัดการภายในของครอบครัว และมั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ BH อย่างแน่นอน

อนึ่ง ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น BH เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายชัย กลับเข้ามาดำรงตำแน่งเป็นประธานกรรมการ BH อีกครั้งหลังจากหมดวาระครั้งก่อน ซึ่งเป็นตามที่คณะกรรมการของ BH ได้สรรหารและเสนอให้กับที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ