นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับลง เนื่องจากตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลังประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เบื้องต้นไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวแค่ 0.5% ชะลอจากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 0.7% และต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/57 กดดันเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันก็ยังคงผันผวน
ขณะที่ตลาดในบ้านเรายังต้องรับปัจจัยลบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นขนาดใหญ่ที่น่าจะกดดันดัชนีให้ปรับตัวลงด้วย รวมทั้งจะเข้าสู่วันหยุดยาวช่วงวันแรงงานในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นอกจากนั้น ยังอบู่ในช่วงทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียนที่โดยรวมน่าจะปรับตัวลดลง yoy จึงต้องระมัดระวังว่านักวิเคราะห์อาจจะปรับประมาณการผลงานของบรืษัทต่าง ๆ ลง
"มองตลาดวันนี้ sideway down ทั้งจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ และผิดหวัง BOJ ที่ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติม บ้านเราวันนี้จะมีการขึ้นเครื่อง XD หุ้นใหญ่หลายตัว ซึ่งก็จะกดดันให้ SET Index ปรับลง ประกอบกับตลาดหุ้นจะหยุดยาว 3 วัน และตลาดหุ้นภูมิภาคบางตลาดก็หยุด 3 วัน เช่น ตลาดสิงคโปร์เนื่องในวันแรงงาน ดังนั้น ตลาดวันนี้คงจะเหงียบเหงา"นายอภิชาติ กล่าว
พร้อมให้แนวรับในวันนี้เป็น 2 จุด แนวรับแรก 1,396 และ 1,395 จุด ถ้าหลุดระดับดังกล่าวก็ไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,380 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,410-1,415 จุด
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,830.76 จุด ร่วงลง 210.79 จุด (-1.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,805.29 จุด ลดลง 57.85 จุด (-1.19%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.81 จุด ลดลง 19.34 จุด (-0.92%)
- ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 10.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 172.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 49.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.24 จุด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (29 เม.ย.) เนื่องในวันโชวะ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 เม.ย.59) 1,399.91 จุด ลดลง 11.93 จุด (-0.84%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 755.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 เม.ย.59) ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 เม.ย.59) ที่ 5.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.94 แข็งค่าตามภูมิภาค แนวโน้มแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาบางก่อนหยุดยาว มองกรอบ 34.85-35.00
- กรมเชื้อเพลิงฯเผยไตรมาสแรกรายได้รัฐจากธุรกิจปิโตรเลียมร่วงหนัก คาดปีนี้ลดลง 5 หมื่นล้านบาท จากราคาน้ำมันโลกวูบ ระบุธุรกิจปิโตรฯ ในไทยแห่ปรับแผนลดต้นทุน หยุดเจาะเหลุมสำรวจเพิ่ม-ปรับโครงสร้าง คาดกำลังผลิตน้ำมันในปีหน้าลดลง พนักงาน 10% จ่อถูกปลด ขณะ ปตท.สผ.กำไรสุทธิไตรมาสแรก ลด 35%
- "สศค."ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงเหลือ 3.3% จาก 3.7% หลังประเมินมูลค่าส่งออกติดลบ 0.7% จากขยายตัว 0.1% ชี้อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจคู่ค้า 15 ประเทศลดเหลือ 3.49% จาก 3.56% คาดจีดีพีไตรมาสแรก ขยายตัวได้ 3% เผย การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนฟื้นตัว
- "ทอท."ยันคิงเพาเวอร์แจ้งยอดขายถูกต้องผ่านการตรวจสอบกรมสรรพากรมาตลอด คาดภายใน พ.ค.นี้ติดตั้งระบบ "พีโอเอส" สนามบินสุวรรณภูมิเสร็จ ขณะที่ผู้ว่า สตง.เผยเตรียมส่งทีมเข้าสอบยอดขาย "คิงเพาเวอร์" แบบเรียลไทม์ ชี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
- รัฐ ปูพรม "สตาร์ทอัพไทยแลนด์" กระตุ้นเด็กรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาว อายุต่ำกว่า 30 ปี หันเป็นเจ้าของกิจการ คิดค้นธุรกิจใหม่หวังเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์จากนวัตกรรม-ดิจิทัล "ประยุทธ์" ลั่นสร้างเศรษฐีใหม่ ด้าน "พิเชษฐ์" แจงรัฐเตรียมออก พรฎ.ลดภาษีรายได้ 5 ปี ภาษีเงินปั้นผลภาษีโอนหุ้นจูงใจผุดสตาร์ทอัพ พร้อมดึง 3 แบงก์รัฐตั้งกองทุนหมื่นล้าน
- BDMS (ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 26.50 บาท คาดการณ์กำไร 1Q59 ที่ 2.3 พันล้านบาท +2% y-y +14% q-q เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเปิดโรงพยาบาลใหม่ เปาโลรังสิต แต่กำไรเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q59 เป็นต้นไป
- KCE (ยูโอบี เคย์เฮียนฯ)"ซื้อ"เป้า 91 บาท คาดว่าผลประกอบการ 1Q59 จะเติบโต 12% qoq และ 47% yoy โดยได้ผลบวกจากอัตราการใช้กำลังการผลิตในงวด 1Q59 ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเป็น 90% เทียบกับ 4Q58 ที่ 83% และคาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 3Q59 เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
- PTTEP (เคทีบีฯ) "ซื้อเก็งกำไร"ให้ราคาเป้าหมาย 82 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิใน 1Q59 อยู่ที่ 5,625 ล้านบาท (+19.8% QoQ, -34.7% YoY) สูงกว่าที่คาดเล็กน้อยจากผลของต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงมากกว่าที่คาด โดยมองว่ากำไรใน 1Q59 น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีแล้วโดยผลประกอบการในงวดถัดไป PTTEP จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนต่อหน่วยที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามผลของฤดูกาล ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงจากกำหนดการปรับราคาขายก๊าซ (คิดเป็น 70% ของปริมาณขาย) ใน 2Q59 และ 4Q59 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามได้ปรับประมาณการกำไรของ PTTEP ขึ้นเป็น 12,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มต้นทุนต่อหน่วยที่อาจจะต่ำกว่าที่เคยคาด โดยยังคงราคาเหมาะสมที่ 82 บาท (อิง P/BV ที่ 0.8 เท่า) โดยคาด consensus อาจจะมีการปรับประมาณการขึ้นได้หลังแนวโน้มต้นทุนต่ำกว่าที่เคยคาดกัน ขณะที่ sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานดีขึ้นตามราคาน้ำมัน