นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ๊คเซส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทค ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนและเร่งกำหนดแผนโรดแม๊ปในแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ (Spectrum Roadmap) ที่มีอยู่ในมือ ได้แก่ คลื่นความถี่ 700 850 2300 และ 2600 MHz โดยภาครัฐจะต้องเร่งกำหนดระยะเวลาในการประมูลคลื่นความถี่ และลำดับของเคลื่อนความถี่ที่มีอยู่ในมือที่จะนำออกมาประมูลให้ชัดเจน ซึ่งทางบริษัทคาดหวังความชัดเจนจากทางรัฐบาลภายในปีนี้
"บริษัทส่งเสริมและจะช่วยผลักดันการก้าวเป็นผู้นำ Digital Economy ของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนไนปี 2020 ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนอยู่ แต่อยากให้ภาครัฐมีกรอบระยะเวลาที่แน่ชัดและเร่งการประมูล เพื่อทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ในคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน และเพื่อให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมตามมาหนังจากการประมูล และทำให้ประชากรในประเทศไทยเข้าถึงและเข้าใจการใช้อินเตอร์เน็ตได้มากที่สุด"นายนอร์ลิ่ง กล่าว
ทั้งนี้ ดีแทค ได้นำเสนอ White Paper ในหัวข้อเส้นทางสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ เป็นคำมั่นสัญญาระยะยาวที่บริษัทจะสนับสนุนประเทศไทยไปสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิตอล รวมไปถึงการผลักดันและส่งเสริมความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐที่เป็นผู้ออกกฎหมายและกำหนดนโยบายภาคเอกชน และภาคสังคมต่างๆ ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าวิสัยทัศน์ของรัฐบาสในการสร้างเศรษฐกิจดิจิตอลนั้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน เศรษฐกิจ รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันทางธุรกิจในภูมิภาค
นอกจากนี้บริษัมยังจะมุ่งเน้นทำแผนงานในอนาคตที่จะสามารถปฎิบัติได้อย่างเป็นรูปแบบและสอดคล้องกับการขับเคลื่อนของภาครัฐ เพื่อที่จะนำประเทศไทยไปสู่สังคมดิจิตอลอย่างสมบูรณ์แบบภายในปี 2020 โดยต้องการให้ประเทศไมยเป็นตัวอย่างในการเห็นการเติบโตของยุคดิจิตอลอย่างสมบูรณ์ หลังจากปัจจุบันมีแนวโน้มการใช้อินเตอร์เน็ตต่อวันมากกขึ้นเฉลี่ยที่ 4 ต่อวัน ส่วนคนกรุงเทพฯใช้อินเตอร์เน็ตมากถึง 6 ชม. ต่อวัน ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้สตรีมมิ่งเพื่อชมวีดีโอผ่าน Youtube มากขึ้น และมีการใช้ Facebook มากขึ้น
อีกทั้งมองว่าไทยมีโอกาสสูงที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิตอล แม้ปัจจุบันจะรองประเทศใน AEC อย่างเช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย ขณะที่บริษัทคาดการณ์อนาคตประชากรในไทย 100% จะสามารถรู้จักโลกดิจิตอล สามารถใช้บริการได้ รวมถึงหาข่าวสารในยุคดิจิตอลได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ จากปัจจุบันมีสัดส่วนประชากรที่ไช้บริการอยู่ที่ 60%
สำหรับวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อเป็นเส้นทางสู่ดิจิตอลยทยแลนด์มี 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 2.ระบบนิเวศเชิงนวัตกรรมดิจิทัล 3.เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อสังคมที่เท่าเทียม 4.บริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ 5.ทุนมนุษย์ 6.กรอบการทำงานองค์รวมเพื่อดิจิตอลไทยแลนด์ โดยทาง DTAC จะสนับสนุนภาครัฐสำหรับการจัดทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคมในการสร้างเสาสถานีฐานในพื้นที่ห่างไกล และพัฒนาโครงสร้างเครือข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำร่วมกัน ประกอบกับการลงทุนและพัฒนาขยายโครงข่าย 4G ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ให้มากที่สุด โดยการลงทุนของบริษัทปีนี้จะเน้นไปที่การลงทุน 4G เป็นหลักซึ่งภายในมิ.ย.นี้จะสามารถครบครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ในประเทศไทยได้
ขณะเดียวกันบริษัทยังร่วมกับกระทรวงเกษตรฯในการทำโครงการ young farmer ที่มีจำนวนสมาชิกอยู่ 70,000 ราย โดยบริษัทได้ช่วยให้เกษตรการเรียนรู้การทำธุรกิจรูปแบบใหม่ โเดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง และสอนให้คิดเชิงเกษตรเชิงพาณิชย์ ไม่ใช้เชิงวัฒนธรรม ซึ่งจะลงพื้นที่เกษตรกรชุดแรกในเดือนพ.ค. นี้ โดยจะไปที่ขอนแก่น สงขลาและจะลงไป3 จังหวัดภาคใต้ โดยหวังว่าวิธีการบริหารที่นำระบบดิจิตอลเข้ามาผสมผสาน จะช่วยเพิ่มมูลค่าและช่วยลดรายจ่าย รวมถึงขยายโอกาสช่องทางในตลาดใหม่ของเกษตรกรไทย โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะเข้าถึงเกษตรกรได้เพิ่มอีก 7,000 ราย