นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งแคบลักษณะเทรดดิ้ง เป็นการตั้งรับมากกว่าไล่ราคา เพราะโดยรวมบรรยากาศการซื้อขายของตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการวานนี้ และเช้านี้ก็ยังแกว่งตัวทั้งบวก-ลบไร้ทิศทาง
สำหรับปัจจัยในประเทศมี 2 ประเด็น คือ เรื่องแรกคาดการณ์ผลประกอบการที่ทยอยประกาศกลุ่ม real sector ที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา และการขึ้นเครื่องหมาย XD ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นทิศทางเงินทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ซึ่งขณะนี้เห็นเป็นขายสุทธิในตลาดหุ้น แต่ก็ยังมีเข้ามาต่อเนื่องในตลาด TFEX
พร้อมให้แนวรับ 1,394 จุด แนวต้าน 1,415 และ 1,420 จุด
"ปัจจัยต่างประเทศช่วงนี้ไม่มีอะไรการประชุมหลักๆ ก็เสร็จแล้ว โดยรวมเป็นเรื่องผลประกอบการเช่นกัน" นายคณฆัสกล่าว
การลงทุนวันนี้แนะนำกลุ่ม commodity ด้านพลังงานและปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PTT และ PTTGC รวมทั้งหุ้นที่น่าจะมีงานภาครัฐทยอยเข้ามาเป็นระยะ กลุ่มรับเหมาฯ คือ CK อีกทั้งหุ้นที่ผลประกอบการน่าจะออกมาดี อย่าง SPALI AAV ROBINS เป็นต้น
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,891.16 จุด เพิ่มขึ้น 117.52 จุด (+0.66%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,817.59 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด (+0.88%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.43 จุด เพิ่มขึ้น 16.13 จุด (+0.78%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 5.28 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 15.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.79 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันที่ระลึกรัฐธรรมนูญ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 เม.ย.59) 1,404.61 จุด เพิ่มขึ้น 4.70 จุด(+0.34%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 497.90 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 พ.ค.59) ปิดที่ 44.78 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ค.59) ที่ 5.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาด 34.85/86 รอตัวเลข Non Farm Pero สหรัฐฯวันศุกร์ มองกรอบ 34.80-35.00
- สศช.เตรียมเสนอขยายเวลายื่นขอบีโอไอ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมิ.ย.นี้ หวังดึงเอสเอ็มอีลงทุนเพิ่มขึ้น ด้าน"ธนารักษ์"เดินหน้าออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินใน 4 จังหวัด เร่งหาดีเวลอปเปอร์พัฒนาพื้นที่ ขณะเอกชนมั่นใจหากเกิดจริง เกื้อหนุนลงทุน ภาพรวม-สร้างโอกาสการค้าการลงทุน
- เอกชนเผยรัฐใช้ ม.44 ปลดล็อกปัญหาผังเมือง พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ นักลงทุนไทย-เทศ แห่สอบถาม-ดูพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจลงทุน เหตุติดปัญหาขั้นตอนประกาศกฎหมาย-เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะราคาที่ดินยังพุ่ง หวั่นเป็นอีกอุปสรรคลงทุน
- "สมคิด"ถกรมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น เร่งลงทุน รถไฟความเร็วสูง หวังเสริมพื้นที่ภาค ตะวันออก รองรับขยายลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เตรียมบินไปญี่ปุ่นอีกรอบปลายเดือนพ.ค.นี้ ด้าน"อาคม"เผยญี่ปุ่นขอไทยทำผลการศึกษาใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ เสริมรายได้รถไฟความเร็วสูงกทม.-เชียงใหม่ เตรียมเคาะเส้นทางเฟสแรก "กทม.-ลพบุรี" และ "กทม.-นครสวรรค์" ขณะนายกฯมั่นใจเทคโนโลยีญี่ปุ่น
- กบง.เห็นชอบให้ ปตท.ลงทุนขยายคลังแอลเอ็นจีเฟส 1 และคลังแอลเอ็นจีเฟสที่ 2 มูลค่ารวมเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ระบุเปิดประมูลเป็นการทั่วไปไม่ทันรองรับความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นรองรับโรงไฟฟ้าถ่านหินชะลอ เตรียมเสนอบอร์ดกพช.เคาะเร็วๆ นี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPALI (โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 25 บาท คาดกำไรในช่วง 1Q59 ราว 1,445 ล้านบาท +60%YoY -1%QoQ จากที่คาดยอดโอนทำได้ดีที่ราว 6 พันลบ.แม้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าไตรมาสที่แล้วแต่สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ได้รับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ยอดขาย presale ในช่วง Q1 ราว 5.3 พันลบ. ทำได้แล้ว 22% ของเป้าที้งปีที่ 2.45 หมื่นลบ.ใน Q2 มีแผนเปิดขายคอนโด 2 โครงการมูลค่ารวม 3.1 พันลบ.จากแผนทั้งหมด 27 โครงการมูลค่ารวม 3.6 หมื่นลบ.เดินหน้าพัฒนาโครงการในตปท.เพิ่มเติมในการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัย 4 โครงการในออสเตรเลียซึ่งมีทั้งที่ดินเปล่าและทาวน์โฮมซึ่งมีระดับ IRR ราว 22-24% โดยบริษัทถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 25%
- VNG (เคทีบี)"ซื้อ"เป้า IAA Consensus 15 บาท คาดกำไรสุทธิปี 59 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปี 58 ปัจจัยหลักจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจปลายน้ำอย่างผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีมาร์จิ้นสูงจากระดับ 25% ในปี 58 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30% ในปีนี้ และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50% ในปี 60 เนื่องจากใน Q4/59 จะมีการเดินเครื่อผลิต Engineering Tooling เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ปัจจุบันเต็มกำลังการผลิตแล้ว ยังได้ประโยชน์จากราคายางพาราที่ตกต่ำ ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงไปกว่าครึ่ง และบริษัทยังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงในระยะยาว บริษัทฯ ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทมีวัตถุดิบเป็นของตัวเอง สามารถใช้ผลิตไฟฟ้าได้ราว 20-25 MW และสามารถใช้วัตถุดิบมาขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้ถึง 100 MW
- KKP (แอพเพิล เวลธ์)"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เป้า 42 บาท จากแนวโน้มสินเชื่อยังหดตัวและอาจมีการปรับเป้าลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงกลางปีซึ่งเบื้องต้นได้ประเมินยอดสินเชื่อว่าจะเติบโตได้ราว 6.5% จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 3.7 พันลบ.จากการลงนามขายหุ้น 100% ของ KKTrade ให้กับหยวนต้าใน 2Q59 มูลค่า 687 ลบ.คาดมีการบันทึกกำไรจากการขายนี้สุทธิราว 100 ล้านบาทใน 3Q59 โดยสาเหตุที่ขายกิจการ KKTrade ก็เพื่อที่จะเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้า High Networth ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักเพิ่มขึ้น