(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ รับแรงหนุนคาดการณ์เฟดไม่รีบขึ้นดบ.-ราคาน้ำมันดีดขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 9, 2016 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มที่จะรีบาวน์ขึ้นมาได้ จากการที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาก็ยังค่อนข้างทรงตัว อีกทั้งในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นมา

"ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยคงจะไม่เร็วนัก ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้น รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ทรงตัว ทำให้เรามองว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวน์ได้"นายอภิชาติ กล่าว

นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก และแดนลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,385 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,740.63 จุด เพิ่มขึ้น 79.92 จุด (+0.45%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.16 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด (+0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,057.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด (+0.32%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 119.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 17.09 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 170.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.56 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.99 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 พ.ค.59) 1,390.70 จุด ลดลง 7.17 จุด(-0.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,357.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 พ.ค.59) ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/
บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.59) ที่ 4.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.09/11 คาดแกว่งในกรอบแคบ นักลงทุนรอผลประชุมกนง.พุธนี้
  • นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาที่เห็นชัดในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย คือการที่ราคาเหล็กเส้นขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากก่อนหน้าราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 13-14 บาท ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16-17 บาท/กก. หรือกว่า 23%
  • "ทองอุไร ลิ้มปิติ" รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ลงในช่วงที่ผ่านมาอาจจะไม่ช่วยในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รวมไปถึงการขยายตัวของสินเชื่อได้มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้คนที่พึ่งรายได้จากดอกเบี้ยผลตอบแทนด้านเงินฝากอาจจะลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ดีการลดดอกเบี้ยมีข้อดีในการช่วยลดภาระของคนมีหนี้ได้
  • นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะเข้ามาส่งผลดีให้กับภาคธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งประเภทธุรกิจค้าปลีกที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและคอนวีเนียนสโตร์ เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่าง โดยเฉพาะไฮเปอร์มาร์เก็ต ทำให้การทำการตลาดยังคงเน้นไปที่การลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ กนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระด้บเดิมที่ 1.50% รอดูท่าทีเศรษฐกิจหลังมาตรการรัฐสิ้นสุด ขณะที่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังกดดันด้านส่งออก แต่หากสถานการณ์แย่ลงก็อาจผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมได้
  • คลังบี้เบิกจ่ายเงินอัดฉีดเข้ากองทุนหมู่บ้าน 1.5 หมื่นล้านบาท เร่งชี้แจงหลักเกณฑ์ หวังใช้เงินรวดเร็ว โปร่งใส

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ERW (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดจะประกาศกำไรสุทธิในงวด 1Q59 ในวันที่ 12 พ.ค.59 จะใกล้เคียงกับกำไรปี 58 ทั้งปี และผลประกอบการ 2Q59 ยังดีต่อเนื่อง หลังได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งปีนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ทั้งนี้ปัจุบันราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มากหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มโรงแรม
  • THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) "ซื้อ"เพื่อเก็งผลประกอบการในงวด Q1/59 ที่จะประกาศในวันที่ 16 พ.ค.59 นี้ โดยคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในปี 58 THAI ได้ทำการปฏิรูปองค์กรโดยมีค่าใช้จ่ายในการลดพนักงานไปกว่า 4,600 ล้านบาท และบันทึกด้อยค่าทรัพย์สินไปกว่า 12,000 ล้านบาท โดยในปี 59 ยังได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่องประกอบกับการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ปัจจัยลบของ THAI เหลืออยู่ไม่มากแล้ว
  • IRPC (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 6.80 บาท ประกาศผลการดำเนินงานในช่วง Q1/59 ยังคงแข็งแกร่ง จากค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ 13.7 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงเล็กน้อย แม้ว่าค่าการกลั่นของน้ำมันดีเซลจะลดลง แต่ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานดีขึ้น ส่วนโครงการปรับปรุงโรงกลั่น (UHV) คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย.59 คาดโครงการนี้จะทำกำไรให้กับ IRPC ประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านบาท คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.0%
  • PTG (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 15.5 – 16 บาท โดย Consensus คาดกำไร Q1/59 ที่ 260 – 270 ล้านบาท (+60% YoY, 8% QoQ) จากยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และขยายสาขาปั๊มน้ำมันขึ้นเป็น 1,235 แห่ง พร้อมคาดรายได้และกำไรปี 2559 จะเติบโตขึ้น ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขาย เพิ่มขึ้น 30-40%, EBITDA เพิ่มขึ้น 30%, ขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,500 สาขา, กลยุทธ์ PT Max Card ขยายสมาชิกบัตรขึ้นเป็น 5.6 ล้านใบ, เพิ่มรายได้จากค่าเช่าร้านค้าตามสาขา รวมถึงรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนบริษัท FPT 9.55% และ AMA Marine 32% นอกจากนี้ Q2 - Q3/59 บริษัทวางแผนจำหน่ายน้ำมันเครื่องของบริษัทผ่านสาขาโดยตั้งเป้ายอดขายปี 59 ไว้ที่ 1.2 ล้านลิตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัทได้ราว 5-7%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ