บล.แอพเพิล เวลธ์ มองหุ้นไทยเดือนพ.ค.แกว่ง"ขาลง"คาดแรงขายแบงก์-พลังงาน-สื่อสารกดหลังงบฯยังไม่ฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 9, 2016 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอพเพิล เวลธ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคม มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนขาลง คาดแนวรับอยู่ที่ 1,350–1,380 จุด (Forward P/E 14.5 – 14.8 เท่า) และแนวต้านอยู่ที่ 1,450 จุด (Forward P/E 15.5 เท่า) เนื่องจากมีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม Big Cap หลังจากผ่านพ้นช่วงการจ่ายเงินปันผล ขณะที่ทิศทางผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังฟื้นตัวไม่ดีนัก โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก ธนาคาร,พลังงาน,สื่อสาร และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะกลับมาผันผวนอีกครั้ง กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย

ผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคาร 9 แห่ง ใน Coverage ของฝ่ายวิจัยในงวดไตรมาส 1/59 พบว่าผลประกอบการเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 10% จากงวดปีก่อน และยังมีความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ, ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง รวมถึงความกังวลภาระสำรองหนี้เสีย กลุ่มพลังงานทิศทางผลประกอบการคาดฟื้นตัว เมื่อเทียบต่อไตรมาส แต่ยังลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังต้องรอประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนกลุ่มสื่อสารโดยเฉพาะผู้ให้บริการคลื่นมีแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ คาดว่าจะลดลงเฉลี่ย 20% จากปีก่อน จากปัจจัยผลประกอบการของหุ้น 3 กลุ่มหลักดังกล่าวยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก เป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนขาลง

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นแถบอาเซียน TIP ทั้งไทย,อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยในช่วงเดือน เม.ย.มีการขายสุทธิหุ้นไทยจำนวน 85 ล้านเหรียญสหรัฐ ,ขายสุทธิหุ้นอินโดฯ จำนวน 9.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และขายสุทธิหุ้นฟิลิปปินส์ จำนวน 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่จะไหลเข้าเก็งกำไรส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ในตลาดพันธบัตร โดยตั้งแต่ต้นปี–ปัจจุบันต่างชาติมีเม็ดเงินไหลเข้าประมาณ 1.5 แสนล้านบาท แต่ภาพโดยรวมฝ่ายวิจัยยังประเมินทิศทาง Fund Flow ยังเป็นบวกต่อการลงทุน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังชะลอตัวในไตรมาส 1 นี้ขยายตัวเพียง 0.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐคาดจะยังไม่เกิดในช่วงครึ่งปีแรกนี้

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมาที่คาดจะได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินก่อสร้างภาครัฐที่จะเริ่มดำเนินการในครึ่งปีหลัง เช่น ITD – CK- STEC- UNIQ- NWR – SEAFCO- PYLON และเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่คาดจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/59 ฟื้นตัวดี เช่น AAV- AOT- CPALL– CPN- EA- IVL-MAJOR-THCOM


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ