เซียนหุ้นทอง SET ครึ่งปีหลังยังผันผวน อาจ peak รอบใหม่ก่อนวิกฤติ เตือนถือเงินสด-เลี่ยงหุ้นเก็งกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 10, 2016 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปุณยวีย์ ประเมิน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดต่างประเทศ และ Fund Flow กล่าวในงานเสวนาโดยทีมโค๊ชโครงการซุปเปอร์เทรดเดอร์ในหัวช้อ"กลยุทธ์รับมือความผันผวนลงทุนครึ่งปีลิง"ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังคาดว่ายังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูงในกรอบ 1,200-1,600 จุด เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน

ปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หากมีการปรับขึ้นตามที่คาดการณ์ก็จะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ในช่วงสั้น แต่หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็เป็นการสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ และมีความเสี่ยงเกิดวิกฤติทางการเงินรอบใหม่ โดยจะเห็นได้จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หากปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในสินทรัพย์เสี่ยง และถือว่าเป็นสัญญาณการก่อตัวของวิกฤติ ในส่วนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะยังมีแค่ Passive fund ที่ไหลเข้าหุ้นไทย โดยเน้นเข้ามาลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลสูง แต่ Agressive Fund ยังคงเข้ามาน้อย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ ในประเทศที่จูงใจมากพอ โดยจะต้องรอดูการลงทุนของภาครัฐในเชิงปฏิบัติ รวมถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นได้ให้กลับมาอีกครั้ง

ด้านนายโสรัตน์ วณิชวรากิจ นักลงทุนหุ้นคุณค่า (VI) มองว่า อาจจะเห็นการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยรอบใหญ่อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ให้ระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะเป็น Cycle สุดท้ายก่อนเกิดวิกฤติ ซึ่งเคยเกิดขึ้นทุก ๆ 10 ปี โดยคาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่ Cycle ดังกล่าวอีกครั้ง

"หลังจากต้มยำกุ้งก็มีแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งจังหวะมันเกิดขึ้นช่วงครบรอบ 10 ปีพอดี และทรงของดัชนีก็จะเป็นเหมือนปัจจุบัน คือขึ้นไม่สุดลงไม่สุด เล่นยากๆ และจะ peak รอบใหญ่ก่อนเกิดวิกฤติ ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเป็นข่าวดียังไม่มีให้เห็นอย่างมีนัย มีแต่ข่าวลบตลอด ช่วง 1-2 ปีนี้ต้องระวัง ทางที่ดีควรถือเงินสดอย่างน้อย 20-30% เพื่อป้องกันความเสี่ยง"นายโสรัตน์ กล่าว

ส่วนนางสาวกนิษฐา รอดดำ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนด้านเทคนิค ระบุว่า ในทางเทคนิค 3-6 เดือนข้างหน้าภาวะตลาดหุ้นไทยถือเป็นขาลง หลังปรับตัวขึ้นมารอบใหญ่จากระดับต่ำในช่วงต้นปี โดยให้แนวรับในระยะดังกล่าวที่ 1,300 จุด แนวต้าน 1,450 จุด หากสามารถทะลุแนวต้านได้จะถือเป็นขาขึ้นรอบใหม่

และ นายวัชระ แก้วสว่าง หรือเสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ แนะนำให้จัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นเพียง 20-30% ของพอร์ต เนื่องจากตลาดฯ ยังมีความผันผวนสูง หลีกเลี่ยงหุ้นเก็งกำไรที่ผลประกอบไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น โดยเน้นใช้กลยุทธ์แบบ Selective buy ทั้งนี้ ส่วนตัวเริ่มกลับมามองหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว แม้จะปรับตัวลงบ้างในบางช่วง แต่ก็ไม่ลึกมากนัก สะท้อนว่าน่าจะสิ้นสุดขาลงแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังตั้งฐานเพื่อฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้หลาย ๆ บริษัทราคาหุ้นได้สะท้อนราคาน้ำมันไปมากพอสมควรแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ