IVL คาดปีนี้รายได้-EBITDA โตทะลุเป้า พร้อมหวัง EPS พุ่ง 4 เท่าภายในปี 61

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 11, 2016 13:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจาก บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ทั้งรายได้และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) จะเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย เป็นไปในทิศทางเดียวกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และความต้องการสินค้าที่ขยายตัวขึ้น ขณะที่ราคาขายขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน

บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี โดยเป็นผลมาจากการการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตราว 20% จากปีก่อนที่มีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 7 ล้านตัน/ปี

ประกอบกับ ความต้องการใช้สินค้าเพื่อทดแทนเส้นใยและวัสดุอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และอุปทานใหม่เริ่มหดตัวลง หลังเกิดปัญหาอุปทานส่วนเกินในตลาด อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยส่งผลดีต่อราคาขายที่เพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันด้วย ซึ่งจะส่งผลไปถึงกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 30% ที่เป็นเป้าหมายเดิมเช่นกัน

บริษัทยังคาดหวังว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) จะมีการเติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้า EPS สูงขึ้นเป็น 4 เท่าภายในปี 61 จากปัจจุบันที่ 0.81 บาท โดยการเติบโตของ EPS จะมาจากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างมากหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อปี 58 ประกอบกับการที่บริษัทซื้อกิจการต้นน้ำ คือ Gas Cracker ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในช่วงปลายปี 60

"การมีผลิตภัณฑ์ต้นน้ำเป็นของตัวเอง ทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการผลิตของบริษัท ซึ่งบริษัทวางแผนจะลดการใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบและนำเปลี่ยนเป็นแก๊สแทน"แหล่งข่าว กล่าว

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 1.74 ล้านตัน/ปี จากการเข้าซื้อกิจการ BP Decatur ในสหรัฐฯ กำลังการผลิต 1.02 ล้านตัน/ปี และกิจการ Cepsa ในเสปน กำลังการผลิต 720,000 ตัน/ปี

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/59 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain) จากการที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ที่ 46 เหรียญ/บาร์เรล แต่ต้นทุนสต๊อกน้ำมันของบริษัทอยู่ที่ 35 เหรียญ/บาร์เรล อีกทั้งการกลับมาเดินเครื่องผลิตของโรงงาน EOEG ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาหลังจากปิดปรับปรุงไป โดย EOEG ให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง จึงส่งผลในการช่วยผลักดันกำไรและรายได้ของบริษัท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว กล่าวว่า ในขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนจะเข้าซื้อกิจการใหม่เพิ่มเติม และไม่มีแผยการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ มีเพียงแผนการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) เพื่อนำเสนอหุ้นของบริษัทให้กับนักลงทุนสถาบัน โดยในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.59) บริษัทจะเดินทางไปพบกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ และในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือน พ.ค.นี้ บริษัทจะเดินทางไปพบกับนักลงทุนสถาบันในสหรัฐและสิงคโปร์ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ