คณะกรรมการสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) แถลงการณ์เรื่องธรรมาภิบาลของกรรมการบริษัทจดทะเบียน โดยจะไม่จัดทำการประเมินบริษัทตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies : CGR) เป็นเวลา 2 ปีในกรณีที่บริษัทหรือกรรมการของบริษัทถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปรียบเทียบปรับ หรือถูกกล่าวโทษหนึ่งปีก่อนการประเมินสิ้นสุด ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวน 7 บริษัทจดทะเบียนในขณะนี้
"ในฐานะสถาบันมีความเห็นว่าการกระทำผิดของกรรมการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในบริษัทจดทะเบียนนั้น ถือเป็นความผิดร้ายแรงซึ่งคณะกรรมการบริษัทไม่ควรเพิกเฉย เพราะตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี กรรมการต้องทำหน้าที่ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ อย่างซื่อสัตย์สุจริต มีความรอบคอบระมัดระวังต่อเหตุที่จะสร้างความเสียหายต่อบริษัท หรือต่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท"แถลงการณ์ ระบุ
นายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมการ IOD กล่าวว่า ทั้ง 7 บริษัทจดทะเบียนมีที่กรรมการบริษัทถูก ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับจะถูกตัดออกจากการประเมิน 2 ปี และหลังจากนั้นหากบริษัทหรือกรรมการไม่ได้ถูก ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับ หรือถูกกล่าวดทษภายในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนการประเมินสิ้นสุดก็จะสามารถเข้ารับการประเมิน CGR ได้ตามปกติ
เหตุผลที่ IOD ดำเนินการเข่นนี้เพื่อเป็นการป้อ้งกันไม่ให้บริษัทจดทะเบียนหรือกรรมการบริษัทจดทะเบียนใดๆก็ตามทำผิดหลักธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ทุกบริษัทและกรรมการทุกคนปฏิบัติตามกฏระเบียบที่หน่วยงานกำกับและดูแลกำหนดไว้
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาจากกรณีที่กรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนถูกกล่าวโทษในความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์จาก ก.ล.ต.มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อคณะกรรมการบริษัททราบเรื่องแล้วปรากฏว่าก็ยังไม่ให้ความสำคัญที่จะตรวจสอบและดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อการกระทำผิดอย่างจริงจัง ทำให้คณะกรรมการ IOD มีความเป็นห่วงเรื่องความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งในตัวบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีการกำกับดูแลเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนให้เข้มงวดมากขึ้น
IOD เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนควรสร้างระบบการให้ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย กฏเกณฑ์ หลักธรรมาภิบาล จริยธรรมและการทำหน้าที่แก่กรรมการและผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงจัดให้มีการตรวจสอบข้อมูลการกระทำผิดและโทษที่ได้รับตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลกัทรัพย์ในอดีตของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการและผู้บริหารระดับสูง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเสนอชื่อผุ้ที่บริษัทเลือกเข้ามาเป็นผู้บริหารหรือคณะกรรมการบริษัท
ส่วนของหน่วยงานกำกับดูแลควรมีการกำหนดให้ผู้ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในความผิดร้ายแรงขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจดทะเบียนอีกต่อไป และควรแก้ไขวิธีการพิจารณาลงโทษและบทลงโทษในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของกรรมการในบริษัทจดทะเบียนให้มีความเข้มข้นกว่าปัจจุบัน ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดเกิดความเกรงกลัว ซึ่งคณะกรรมาร IOD อยากให้กฏระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นออกมาได้อย่างเร็วที่สุด
นอกจากนี้ IOD จะสนับสนุนการนำประวัติการประทำผิดของกรรมการหรือผู้บริหารตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารรารับหรือต่ออายุการเป็นสมาชิกของสถาบัน IOD ทั้งในระดับบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการ IOD จะนำเสนอให้ที่ประชุมสมาชิก IOD พิจารณาให้ความเห็นชอบในที่ประชุมใหญ่วันที่ 30 พ.ค.59
"IOD เชื่อว่าการกำหับดุแลกิจการที่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะสนับสนุนความก้าวหน้าและการเติบโตของธุรกิจและระบบเศรษฐกิจเป็นภาระที่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันส่งเสริมให้ภาคธุรกิจของประเทศมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการบริหารงานที่ถูกต้องตามหลักกติกา สร้างความเชื่อมั่นและสร้างความเข็งแกร่งกับบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจไทยอีกด้วย"นายเกริกไกร กล่าว