นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 2.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.86 หมื่นล้านบาทในปีก่อน หลังมองเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย ซึ่งจะทำให้มีงานประมูลออกมาเพิ่มขึ้น และบริษัทมีความพร้อมจะเข้าร่วมประมูลมากขึ้นกว่าทุกปี
"ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศกำลังเริ่มคลี่คลาย บวกกับปริมาณงานโครงการที่เราจะร่วมประมูลเยอะกว่าทุกปี เราจึงมีโอกาสที่จะได้งานจำนวนมาก ผมจึงมีความมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้"นายวัฒน์ชัย กล่าว
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า กลุ่มสายงาน ICT Solutions นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) จะมีโอกาสจากโครงการต่าง ๆ ที่เลื่อนประมูลมาปีนี้รวมมูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท และที่สำคัญยังได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากโครงการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสาร (APPS) มูลค่ากว่า 2.8 พันล้านบาทอีกด้วย
ส่วน บมจ.สามารถไอ-โมบาย (SIM) ผู้นำสายธุรกิจ Mobile-Multimedia อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายธุรกิจเดิมให้สอดรับกับยุคออนไลน์ โดยจะลดสัดส่วนการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือลงให้เหลือเพียง 60% และไปเพิ่มรายได้ประจำจากธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ ล่าสุดเข้าซื้อบริษัท Phoinikas ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Advertising เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจใหม่และสร้างความมั่นคงในอนาคต
นอกจากนี้ จะปรับโฉมร้านใหม่ภายใต้แบรนด์ OPEN SHOP เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นศูนย์รวมของโทรศัพท์มือถือและ Lifestyle Gadget มากมาย โดยตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้าน 28 สาขาในปีนี้ รวมถึงจะเปิดให้บริการ MVNO บนเครือข่ายของ CAT ในชื่อ Open MVNO ล็อตแรกตั้งเป้า 2 แสนซิม ส่วนธุรกิจมือถือไตรมาส 2/59 จะมี 3 รุ่นที่ออกจำหน่าย โดยเน้นฟังก์ชั่น Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว แบบ Super Bright AMOLED โดยตั้งเป้าจำหน่ายเครื่องที่ 8 แสนเครื่อง
สายธุรกิจ U-trans ซึ่งประกอบด้วย CATS, Kampot Power Plant และ Teda บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านระบบและเสาส่งไฟฟ้า ล่าสุดคว้างานมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาทก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขอนแก่น รวมถึงการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในบางเขตของระยอง อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยธุรกิจโรงไฟฟ้ายังขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่หนุนให้กำไรของกลุ่มมีโอกาสสูงขึ้น คาดว่าภายใน 2 ปีจะมีโอกาสการเติบโตที่สูงขึ้นจากการรับงานก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าที่เป็นเมกะโปรเจ็กต์ เช่น โครงการพลังงานไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,000 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าขยะในหลายๆจังหวัด
สายธุรกิจ Related Business ล่าสุดสามารถวิศวกรรมเปิดตัวสินค้าใหม่ SAMART Digital Headend Solution หรือ ระบบทีวีรวมดิจิทัล สำหรับอาคารสูงเพื่อรุกธุรกิจดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ ที่ 100 ล้านบาท มั่นใจ 3 ปี มีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจของบมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ มีโอกาสเข้าประมูลอีกหลายโครงการรวมมูลค่ากว่า 570 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 10% ด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม Insurance & Finance, Airline และ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าและการสื่อสารทางการตลาดในวงกว้าง
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า สำหรับในไตรมาส 1/59 กลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภาวะซบเซาของเศรษฐกิจในประเทศ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 4.13 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่เริ่มกลับมาเป็นบวก โดยสัดส่วนกำไรหลัก ๆ มาจากธุรกิจด้านไอซีทีของกลุ่มสามารถเทลคอม และธุรกิจอื่นๆ
ทั้งนี้ SIM แม้จะสามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้จำนวนมากในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ราคาเฉลี่ยลดลงตามสภาพตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังการรุกธุรกิจใหม่ด้านออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ไตรมาสสอง เป็นต้นไป จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วน SAMTEL มีรายได้รวม 1.46 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา มีงานในมือรวมกว่า 7.9 พันล้านบาท เฉพาะไตรมาสแรก 1.12 พันล้านบาท ล่าสุด ชนะประมูลโครงการมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในปลายเดือนนี้
กลุ่ม SIM มีรายได้ 1.45 พันล้านบาท กลุ่มสามารถยูทรานส์ มีรายได้ 1.02 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ส่วนสายธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และ บริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ก็มีรายได้รวม 121 ล้านบาท