นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษา และเจรจาพันธมิตรเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เมียนมาร์ เพื่อขยายกำลังซื้อในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยสินค้าหลัก คือเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตหลักของโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านชิ้น/ปี คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4/59
ทั้งนี้ ปัจจุบัน TOG มียอดการผลิตเลนส์รวม 27 ล้านชิ้น/ปี และคาดว่าปี 60 กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 30 ล้านชิ้น/ปี หลังจากสามารถเดินเครื่องการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ
บริษัทยังคงเดินตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะแผนการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลหรือเลนส์สั่งฝนพิเศษ (Prescription Lens หรือ Rx Lens) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี จำนวน 300-350 ล้านบาท และงบลงทุนปกติ 150 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องกว่า 10% ทุกปี พร้อมพัฒนานวัตกรรมในการผลิตเลนส์สายตาให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และการพัฒนาเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบัน TOG มีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ 95% และในประเทศ 5% โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิค สำหรับการขยายตลาด AEC นั้น บริษัทได้ขายสินค้าผ่านบริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ โดย TOG เข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 33% คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/59 บริษัทมีรายได้รวมจากการขายและบริการทั้งสิ้น 523.32 ล้านบาท เติบโต 12.59% จากงวดปีก่อน เป็นผลมาจากมูลค่าการขาย “เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม" หรือกลุ่มเลนส์พรีเมี่ยม เพิ่มสูงขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 75.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.23% จากงวดปีก่อน ซึ่งอัตราผลกำไรที่เติบโตสูงขึ้นมากนั้น เป็นผลมาจากการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ประกอบกับการวางระบบบริหารจัดการ และการควบคุมภายในที่ดีขึ้น สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการเพิ่มกลยุทธ์ในการวางแผนสื่อโฆษณาเพื่อส่งเสริมการตลาดและการขายอีกด้วย
"การขยายตัวของยอดขายเลนส์พรีเมียม หรือที่เรียกว่า “เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม" เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกามีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด ทั้งนี้ นอกจากตลาดฝั่งอเมริกา และยุโรปแล้ว บริษัท ยังให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่ม AEC ด้วย เนื่องจากมีสัดส่วนความต้องการใช้เลนส์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพสายตาที่หลากหลาย ซึ่งมูลค่าการขายเลนส์กลุ่มนี้มีมูลค่าสูง โดยมีผ่านมา TOG ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย และพัฒนา เพื่อให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าปี 59 นี้ TOG จะยังคงมีอัตราการเติบโตตามเป้า"นายธรณ์ กล่าว