นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทยังมั่นใจที่จะรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายรวม เนื่องจากความต้องการน้ำมะพร้าวในตลาดโลกในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้ามีอัตราการเติบโต (CAGR) อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละกว่า 10% ซึ่งตลาดใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งหลายแบรนด์เป็นลูกค้าของบริษัท ทำให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มการส่งออกของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อีก พร้อมกันนี้ บริษัทมุ่งที่จะขยายตลาดสำหรับสินค้ามาลี แบรนด์ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด และผู้บริโภคในแต่ละประเทศ
บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาในไตรมาส 1/59 บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพของผู้บริโภค เช่น มะพร้าวอ่อนสูตรผสมวุ้นมะพร้าวและแปะก๊วยในน้ำเชื่อม น้ำมะเขือเทศผสมน้ำผักผลไม้รวม น้ำฝรั่งชมพูผสมน้ำผักผลไม้รวม และยังขยายช่องทางการขาย และทำกิจกรรมทางการตลาดสำหรับ มาลี โคโค่ น้ำมะพร้าว 100% พร้อมดื่ม เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการผลิตน้ำมะพร้าว และกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภค
“เนื่องจากกลยุทธ์ของบริษัทที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำผลไม้พร้อมดื่ม และมุ่งขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพื่อรองรับกับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่งผลให้ในไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมา ยอดขายจากการส่งออกเติบโตสูงถึง 98% ซึ่งทำให้สัดส่วนของยอดขายของการส่งออกต่อรายได้รวมของบริษัทเพิ่มเป็น 34% สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายตลาดในต่างประเทศของบริษัท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า บริษัทมียอดการส่งออกน้ำมะพร้าวสำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตเติบโตสูงเกินกว่า 100% และในช่วงปลายไตรมาสที่ 1/59 ที่ผ่านมาบริษัทยังสามารถผลิตสินค้าและส่งออกไปยังบริษัทร่วมทุน Monde Malee Beverage Corporation (MMBC) ในประเทศฟิลิปปินส์ได้ตามแผน โดยสินค้าแรกที่วางขาย คือ กาแฟกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “Kratos" ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการภายใน ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 109.8 ล้านบาท ซึ่งเติบโตสูงถึง 29% "นางสาวรุ่งฉัตร กล่าว