นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ตามแผน ซึ่งยังไม่รวมกับรายได้จากธุรกิจใหม่ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์คาแร็คเตอร์ตัวการ์ตูนชั้นนำในกลุ่ม Sanrio แต่เพียงผู้เดียวใน 7-Eleven ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ในเดือน ส.ค.-ธ.ค.นี้ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 TACC ได้ลงนามในสัญญาอนุญาตใช้ช่วงสิทธิ์เครื่องหมายการค้ากับ Sanrio Wave Hong Kong Co.Ltd. โดยบริษัทได้รับสิทธิในการผลิตและจำหน่ายสินค้า โดยใช้ตัวการ์ตูน 5 คาแร็ตเตอร์ ประกอบด้วย Hello Kitty, Kerokerokeropi, Pompompurin, Bad badtzmaru, My Melody ในประเทศไทยผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ครอบคลุม 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ 1.Stationary 2. Non-Food เช่น ถ้วย กระเป๋าใส่เหรียญ พวงกุญแจ เป็นต้น 3.Cosmetic 4.Beverage และ 5. Processed Food
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม และอยู่ระหว่างศึกษาการขยายช่องทางการส่งออกในต่างประเทศเพิ่มเติม
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 มียอดขาย 283.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.6% กำไรสุทธิ 23.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6 ล้านบาท หรือ 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับโอกาสจาก 7-Eleven ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจต่อกัน (Key Strategic Partner) ให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ จากเดิม 2,500 แห่ง ขยายเป็น 5,000 แห่ง เนื่องจากความนิยมเพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกันยอดขาย ชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด All café ก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Café) ในร้าน 7-Eleven ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 1,000 จุดในปีที่ผ่านมา เป็น 2,300 จุดในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ (Vending Machine) นายชัชชวี กล่าวว่า ภายในเดือน พ.ค.นี้ จะมียอดติดตั้ง 138 เครื่อง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะติดตั้งครบ 750 เครื่อง และในปี 60 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง รวมเป็น 1,500 เครื่อง กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศตามแผน มูลค่าลงทุนรวม 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ระดมทุนได้จากการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในปีที่ผ่านมา