นางภัทรา บุศราวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า แนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/59 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(Load factor) ในไตรมาส 2/59 เฉลี่ยที่ 83% สูงกว่าในไตรมาส 2/58 ที่มี Load factor เฉลี่ยที่ 79%
ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้เปิดฐานปฏิบัติการ(ฮับ)แห่งใหม่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และในไตรมาส 2 ปีนี้ได้เปิดเส้นทางใหม่ถึง 7 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-โกชิ เมืองทางใต้ของอินเดีย จะเริ่มบินในปลาย พ.ค.นี้, กรุงเทพ-ซัวเถา และ เชียงใหม่-ฉางซา ก็เริ่มบินในปลาย พ.ค.เช่นกัน ส่วนในไตรมาส 3/59 จะเริ่มบินเส้นทางกรุงเทพ-เวียงจันทร์ (1 ก.ค.)
สำหรับเส้นทางที่เปิดบินไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ เชียงใหม่-ขอนแก่น, หาดใหญ่-ขอนแก่น , หาดใหญ่-เชียงราย, หาดใหญ่-ยะโฮร์ บาห์รู
อีกทั้งตลาดท่องเที่ยวในไทยยังดีต่อเนื่องในไตรมาสแรกทีผ่านมา นอกจากนี้ ได้รับอานิสงส์จากสายการบินนกแอร์ (NOK) ยังไม่พร้อมที่กลับมาเปิดบริการเต็มที่
"ไตรมาส 2 ก็ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก แต่จะสู้ไตรมาส 1 ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อนก็ดีขึ้น เพราะเราเปิดเส้นทางใหม่เยอะขึ้น และเปิดฮับที่หาดใหญ่"นางภัทรา กล่าว
ทั้งนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังคงเป้าหมายการเติบโตของผู้โดยสารปีนี้ที่ 17 ล้านคน และ Load factor เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 83% ปัจจุบันมีฝูงบิน 47 ลำ อายุเฉลี่ย 4.5 ปี และสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 50 ลำ เป็นเครื่องบิน A320 ทั้งหมด